สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองเฉินโจว ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของจีน เปิดเผยว่า เริ่มดำเนินการตอบสนองฉุกเฉิน หลังตรวจสอบพบ “คุณภาพน้ำที่ผิดปกติ” ในบางส่วนของแม่น้ำเล่ย โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ในเวลาต่อมา สื่อหลายแห่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับการปนเปื้อนของ “แทลเลียม” ซึ่งเป็นโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อระบบประสาท และเนื้อเยื่อของมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางการเมืองเฉินโจวเพิ่งออกมายอมรับ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าความเข้มข้นของแทลเลียมในแม่น้ำ ณ วันนั้น สูงกว่าค่าปกติอย่างน้อย 13 เท่า แต่ยืนยันว่า “สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว”
สำนักข่าวเซาท์เทิร์น เมโทรโพลิส เดลี รายงานว่า สถานีตรวจวัดระดับน้ำตรวจพบการรั่วไหลในแม่น้ำระหว่างเมืองเฉินโจว กับเมืองเหิงหยางที่อยู่ใกล้เคียง เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดมลพิษในเมืองต่าง ๆ และคุกคามความปลอดภัยของน้ำดื่ม ในพื้นที่ปลายน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่พยายามแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว “อย่างเงียบ ๆ” ในวันรุ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี เรื่องดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผย จนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางการท้องถิ่นระบุว่า น้ำประปาในท้องถิ่น “ปลอดภัย” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการรั่วไหล หรือขอบเขตเกี่ยวกับการตอบสนองของรัฐบาล
ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า เธอได้ยินเรื่องสารดังกล่าวจากโลกออนไลน์ ทั้งจากบทความที่ถูกส่งต่อทางกลุ่มแชต และคลิปวิดีโอในแพลตฟอร์ม “โต่วอิน” หรือติ๊กต็อกของจีน แต่หน่วยงานท้องถิ่นไม่เคยแจ้งให้เธอทราบโดยตรง เกี่ยวกับการปนเปื้อนในแม่น้ำ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางการเฉินโจวกล่าวโทษโรงงานซีเมนต์ในพื้นที่ว่า “เป็นต้นเหตุ” ของสารเคมีที่รั่วไหล โดยระบุว่า น้ำฝนได้ชะล้างฝุ่นซึ่งมีแร่แทลเลียมจากเตาเผาที่เพิ่งรื้อถอนลงสู่แม่น้ำ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษและบำบัดน้ำในแม่น้ำ เพื่อกำจัดแทลเลียมแล้ว ขณะที่ความเข้มข้นจะกลับสู่ภาวะปกติในไม่ช้า.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
