เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะ แถลงข่าวคัดค้านในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ กล่าวว่า ในเรื่องของเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ และรัฐบาลไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าที่จะเจอวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังถาถมเข้ามาสู่ประเทศไทย ตนได้รับมอบหมายให้มาส่งสัญญาณถึงรัฐบาลให้มีการเตรียมความพร้อมที่จะเจอผลกระทบที่ตามมาในหลายเรื่อง เช่น แผ่นดินไหว , นายโดนัลป์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการะบุว่าไทยถูกเก็บภาษีเพิ่มร้อยละ 36 ที่กำลังจะมีผลกระทบตามมา เรื่องที่สำคัญคือรัฐบาลพยายามรีบเร่งนำร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ระบุเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภา
ขณะที่นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร เขต 5 รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องการประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจรเราไม่เอา เพราะปัจจุบันมีปัญหารุมล้อมประเทศชาติมากมาย แต่เราก็คาดการณ์ว่าหากมีการนำเข้าที่ประชุมสภา เสียงข้างมากน่าจะมีการหนุนในเรื่องนี้ เพราะน่าจะมีการเกี่ยวพันกับผลประโยชน์อื่น ซึ่งเราก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ แต่ด้วยความเป็นวิญญูชนก็ต้องพึงรู้ว่าจะมีผลประโยชน์ แอบแฝงอยู่ ยอมรับว่าหากมีกาสิโนถูกกฎหมายประเทศเราอาจจะมีเงินเพิ่มเข้ามา แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับการที่จะสูญเสีย หากประชาชนติดการพนันอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศ มีบางรัฐมนตรีบางคนให้สัมภาษณ์ว่าต้องการเงินจากนักท่องเที่ยวแต่ท้ายที่สุดเราก็รู้ว่า เงินที่จะเข้ากาสิโนได้ก็มาจากประชาชนคนไทย โดยอยู่ในกลุ่มที่หวังกับการเสี่ยงโชค ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อยืนยันว่าพร้อมที่จะขยายผล เมื่อมีการปิดสมัยประชุมสภาเราจะลงพื้นที่ไปชี้แจงกับประชาชนว่าหากเลือกพรรคพลังประชารัฐเราไม่เอากาสิโน แต่หากจะเอากาสิโนก็ให้เลือกพรรคอื่น
เมื่อถามอีกว่าจะทันผ่านกฏหมายหรือไม่ นายชัยมงคล กล่าวว่า แต่วาระ 1 เราน่าจะแพ้ แต่เชื่อมั่นว่าบางครั้งรัฐบาลต้องฟังเสียงของประชาชนถ้าดึงดันเกินไปอาจจะยังไม่ถึงวาระ 2-3 เพราะอาจจะจบเกมรัฐบาลไปก่อนก็ได้ ส่วนจะเกิดม็อบมาคัดค้านในเรื่องนี้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าม็อบจุดติดแน่นอนเพราะฟังเสียงจากประชาชนแล้วจึงรู้ว่าประชาชนเห็นด้วยในการคัดค้านในครั้งนี้ยอมรับว่ารัฐบาลต้องฟังเสียงจากประชาชน ยืนยันว่าจะไปพูดคุยกับม็อบที่ปักหลักคัดค้านกาสิโน อยู่หน้าสภาในขณะนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่ปัจจุบันได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเศรษฐกิจโลก แต่ว่าสภายังมีการดันร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าไปในระเบียบวาระการพิจารณา นายฉกาจ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐค้านมาตลอด โดยสังเกตได้ตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมาได้ด้วยเช่นกัน ภายหลังการอภิปราย ฯ รัฐบาลก็ได้รีบบรรจุวาระเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรีบบรรจุเข้าที่ประชุมสภา ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการพิจารณากันในวันที่ 9 เม.ย. 2568 ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะว่าเพราะมีหลายเรื่องที่ยังไม่เคลียร์และชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาผลกระทบจากการที่เรามีกาสิโนต่อประชาชนคนไทยได้อย่างไร ต้องอาศัยสื่อมวลชนในการส่งสัญญาณไปรัฐบาลเพราะปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคเล็กไม่มีมือพอที่จะไปคัดค้าน และต้องอาศัยความร่วมมือกับพรรคประชาชน
เมื่อถามอีกว่ากรณีมีม็อบคัดค้านกาสิโนมาปักหลักอยู่ที่สภาเพื่อคัดค้านนั้น จะมีการพูดคุยความเห็นร่วมกันหรือไม่ นายฉกาจ กล่าวว่า ตนมาเช้ากว่าม็อบ จึงยังไม่เจอม็อบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่เราจะลองพิจารณาพูดคุยดูว่ามีแนวทางอย่างไรที่จะช่วยกันต่อต้าน อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐไม่เอากาสิโน 100 เปอร์เซ็นต์
////
