เมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างต่อร่างกายและจิตใจของคนเรา ทั้งสุขภาพกายไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเก่า สุขภาพใจอ่อนไหว โมโหง่ายมากขึ้น สามารถเป็นการส่งสัญญาณบอกโรคร้าย คน

“โรงพยาบาลสมิติเวช” มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับภาวะจิตใจและอารมณ์ของผู้สูงอายุที่แปรปรวน โมโหง่าย มาจากปัจจัยต่างๆ ทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม

ด้านร่างกาย

ผู้สูงอายุจะมีความแข็งแรงของร่างกายที่เสื่อมถอยลง การได้ยินและการมองเห็นลดลง

ความจำที่ลดลงทำให้ต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น บางครั้งต้องซักถามเพื่อทำความเข้าใจหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้หงุดหงิดได้ และฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพศหญิงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจะส่งผลต่ออารมณ์โดยตรง

ด้านจิตใจ

ผู้สูงอายุอาจต้องพบกับการสูญเสียบุคคลที่รัก การแยกตัวของบุตรหลาน ความรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่าหลังเกษียณ ความโกรธที่ตนเองต้องพึ่งพาบุคคลรอบข้างมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้สามารถส่งผลต่ออารมณ์และอาจแสดงออกโดยการมีอารมณ์ที่หงุดหงิด โมโหร้ายได้

ด้านสังคมและครอบครัว

มีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางสังคมด้านหน้าที่การงาน  เกษียณ  ลดบทบาทจากหัวหน้าครอบครัว  ในบางครั้งผู้สูงอายุอาจรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ต้องการของบุตรหลานหรือบุคคลรอบข้าง ส่งผลให้แสดงออกโดยการตัดพ้อ ประชดประชัน เพื่อให้บุตรหลานหรือผู้ดูแลสนใจมากขึ้น

อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และความวิตกกังวล

หากผู้สูงอายุมีอารมณ์แปรปรวน อาจเป็นสัญญาณว่ากำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือมีปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ตามรายงานจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตบางประเภท แต่มีเพียง 1 ใน 3 ที่ได้รับการรักษา ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า  เกือบ 8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรควิตกกังวล ความผิดปกติทางอารมณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้งในวัยชรา และจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

ในผู้สูงอายุบางรายที่มีอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้าย อาจเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของภาวะซึมเศร้า ทำให้ผู้ป่วยไม่มีเรี่ยวแรงและความต้องการในการดำรงชีวิต ผู้ป่วยอาจไม่อยากทำกิจกรรมใดๆ ไม่อยากอาหาร ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ มีความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ และการเสียชีวิต ดังนั้น การสังเกต ใส่ใจผู้สูงอายุ และให้การรักษาในระยะเริ่มแรกจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ผู้สูงอายุอารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย ส่งสัญญาณบอกโรคใด

การที่ผู้สูงอายุอารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย อาจเกิดขึ้นตามวัยของผู้สูงอายุจากปัจจัยแวดล้อมที่มากระทบ แต่อาการดังกล่าวอาจเป็นอาการของโรคอื่นๆได้ เช่น

@ ภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเกิดจากการสะสมของโปรตีนชนิดที่ผิดปกติในระบบประสาท มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ จำเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้ ถามเรื่องเดิมซ้ำ ๆ มีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่ายขึ้น หลงผิด หากมีอาการมากขึ้นอาจสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน

@ โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุอาจมีภาวะซึมเศร้าได้จากหลายสาเหตุและอาจแสดงออกโดยการมีอารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย ไม่ค่อยพูด ไม่อยากคุยกับใคร เบื่ออาหาร รับประทานได้น้อยลง มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการนอน เช่น นอนมากขึ้น หรือนอนไม่หลับ เฉื่อยชา ไม่สนใจทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

การรักษา ดูแลผู้สูงอายุที่อารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย

-การรักษาผู้สูงอายุที่มีอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้ายขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเป็นอาการแสดงของโรคต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคซึมเศร้า ควรรักษาตามแนวทางการรักษาแต่ละโรค

-หากมีอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้ายที่เป็นจากด้านอารมณ์ จิตใจและสังคม สามารถให้การดูแลเบื้องต้น 

-การแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย พูดคุยสอบถาม

-หากิจกรรมให้ผู้สูงอายุทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ทำร่วมกันเป็นกลุ่มกับครอบครัวหรือสังคม

-ให้เกียรติ ให้บทบาท แสดงออกถึงความสำคัญ เช่น ให้เป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ

-ให้พบปะสังสรรค์กับครอบครัวและสังคมอย่างสม่ำเสมอ

-การสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ

-การแก้ไขปัญหาทางกายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารหรือการใช้ชีวิต เช่น การใช้เครื่องช่วยฟัง การหาแว่นสายตาที่เหมาะสม ไม้เท้าหรืออุปกรณ์ช่วยเดิน เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกว่าตนเป็นภาระของลูกหลาน

สัญญาณที่ควรพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์

ควรพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เมื่อ

-มีอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้าย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

-ผู้สูงอายุมีแบบแผนในการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปหรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง

-มีรูปแบบการนอนและการตื่นที่ผิดปกติอย่างมาก

-มีอาการเจ็บป่วยทางกายที่ไม่จำเพาะกับโรคใดโรคหนึ่งอย่างชัดเจน เช่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น

-มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอย่างฉับพลัน เช่น ไม่พูด พูดไม่เข้าใจ ไม่ยอมเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันที่เคยทำด้วยตนเองได้ อาจมีสาเหตุมาจากโรคหลอดเลือดสมอง

การป้องกันไม่ให้เกิดอารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย ในผู้สูงอายุ

การดูแลเพื่อป้องกันอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้ายในผู้สูงอายุเน้นการดูแลสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดย

-ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

-แก้ไขปัญหาทางกายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารหรือการใช้ชีวิต เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกว่าตนเป็นภาระของลูกหลาน

-สนับสนุนการทำกิจกรรมยามว่าง การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

-ให้พบปะสังสรรค์กับครอบครัวและสังคม ทำกิจกรรมกับผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ

-ให้ความสำคัญด้านจิตใจ ตามใจผู้สูงอายุในสิ่งที่เหมาะสม ให้เกียรติ ให้การยกย่อง ให้ผู้สูงอายุรู้สึกเป็นที่รักและที่ต้องการของครอบครัวและสังคม

การที่ผู้สูงอายุมีอารมณ์แปรปรวนและโมโหร้าย อาจเป็นจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย หรือเป็นอาการแสดงของโรคอื่นๆ ที่อันตรายและควรได้รับการรักษา จึงควรใส่ใจและให้การดูแลรักษา ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ระยะแรก.