น.ส.อนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานวันยางพาราภาคตะวันออก ประจำปี 2568 ว่า งานวันยางพาราภาคตะวันออกนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ยางพารา ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้ประกอบการยางในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีที่ได้ชื่อว่าเป็นถิ่นกำเนิดยางพาราแห่งภาคตะวันออก อีกทั้งเป็นการรำลึกถึงคุณูปการของหลวงราชไมตรี “บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก” ผู้นำยางพาราต้นแรกเข้ามาปลูกในภาคตะวันออก จนยางพารากลายเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ จนถึงปัจจุบันภาคตะวันออกได้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่มีศักยภาพทั้งในด้านอุตสาหกรรม การขนส่ง และการลงทุน โดยการนำยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทยเข้ามาบูรณาการกับนวัตกรรมการผลิตและการแปรรูป นับเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับยางพาราไทยจาก “วัตถุดิบ” สู่ “ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง” และเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. ในนามเจ้าภาพหลักและองค์กรกลางที่ทำหน้าที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ได้บูรณาการความร่วมมือกับ อบจ. จันทบุรี ส่วนราชการ และหน่วยงานทุกภาคส่วน ในการจัดงานวันยางพาราแห่งชาติภาคตะวันออกประจำปี 2568 เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของยางพารา และน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของ หลวงราชไมตรี (ปูม ปุณศรี) ผู้นำยางพาราต้นแรกมาปลูกในจังหวัดจันทบุรี ณ บริเวณเชิงเขาสระบาป ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ เมื่อปี พ.ศ. 2451 จากนั้นได้ขยายไปทั่วทุกพื้นที่ในภาคตะวันออก จนได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น “บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก” โดยมีเป้าหมายหลักของการจัดงานในการเผยแพร่องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพารา การตลาดยางพารา ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปให้ได้เห็นถึงความสำคัญของยางพารา และให้เกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เกิดความภาคภูมิใจในอาชีพการทำสวนยาง ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจภาคการเกษตรของไทยมาอย่างยาวนาน
“ ไฮไลท์สำคัญของงานในครั้งนี้ คือการเผยโฉมผลิตภัณฑ์ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ “Greenergy Tyre” ผ่านขบวนรถมอเตอร์ไซค์และขบวนรถจี๊ป โดยยางล้อดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่าง กยท. กับ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งมีการจัดพิธีลงนาม MOU ระหว่าง 3 หน่วยงาน และมีพิธีลงนาม MOU ระหว่าง กยท. กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการด้านการขนส่ง เพื่อจัดการระบบโลจิสติกส์ให้มีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของ กยท. ครอบคลุมถึงการวางแผนเส้นทาง คลังสินค้า การติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต”
นอกจากนี้ ภายในพิธีเปิด กยท. ได้มอบโล่แก่ผู้กระทำคุณประโยชน์ให้ กยท. รวมถึงโล่รางวัลสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางต้นแบบ และโล่พร้อมเงินรางวัลสำหรับการประกวดเกษตรกรดีเด่น สถาบันเกษตรกรดีเด่น และเครือข่ายเกษตรกรดีเด่น ระดับเขตภาคกลางและภาคตะวันออก รวมถึงยังมีการประกวดยางแผ่นคุณภาพดีและการแข่งขันกรีดยางระดับเขตอีกด้วย ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “ยางฯ คือเส้นทางชีวิต: RUBBER Is The Part Of Life” พร้อมเปิดเวทีสัมมนาวิชาการนวัตกรรมขับเคลื่อนยางพาราสู่อุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมชมงาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาและสร้างความยั่งยืนทางอาชีพ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป