สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ว่า นายอับบาส อารักชี รมว.การต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งหารือแบบพบหน้ากับนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ ระหว่างการประชุมทางอ้อมในโอมาน กล่าวว่า สหรัฐและอิหร่านจะกลับมาเจรจากันต่อในวันเสาร์หน้า
“ฝ่ายอเมริการะบุว่า ข้อตกลงเชิงบวกเป็นสิ่งที่สามารถบรรลุได้โดยเร็วที่สุด แต่มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องอาศัยความเต็มใจจากทั้งสองฝ่าย ส่วนการประชุมในวันนี้ ผมคิดว่าเราเข้าใกล้พื้นฐานของการเจรจามากแล้ว ซึ่งพวกเราและอีกฝ่าย ต่างไม่ต้องการการเจรจาที่ไร้ผล การหารือแบบพอเป็นพิธี การเสียเวลา หรือการพูดคุยที่ยืดเยื้อไปตลอดกาล” อารักชี กล่าวเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า การหารือกับอิหร่านเป็นไปในทางบวกและสร้างสรรค์ และการสื่อสารโดยตรงของวิตคอฟฟ์ในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ นายบัดร์ บิน ฮาหมัด อัล บูไซดี รมว.การต่างประเทศโอมาน ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาที่กรุงมัสกัต ตามคำเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้มีการประชุมแบบพบหน้ากัน แม้กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุว่า คณะผู้เจรจาหารือโดยตรงเป็นเวลา “ไม่กี่นาที” ในบรรยากาศที่เป็นมิตร สร้างสรรค์ และเคารพซึ่งกันและกัน
ก่อนหน้านี้ วิตคอฟฟ์ให้สัมภาษณ์กับเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่าจุดยืนของสหรัฐเริ่มต้นด้วยการเรียกร้องให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด แม้มีเพียงไม่กี่คนที่คาดว่าอิหร่านจะยอมรับเงื่อนไขนี้ก็ตาม
อนึ่ง การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกับอิหร่าน เกิดขึ้นหลังจากทั้งสองฝ่ายข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะดำเนินการทางทหาร ซึ่งทรัมป์เน้นย้ำเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะใช้กำลังทหาร หากการเจรจาประสบความล้มเหลว.
เครดิตภาพ : AFP
