ประเด็นที่ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมคือ การสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรในไทย ที่มีกาสิโนอยู่ด้วย ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) สว.สีน้ำเงิน ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ ได้วางตัวบุคคลให้ดำรงตำแหน่งประธาน กมธ. เบื้องต้นได้วางตัว นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็น กมธ.สัดส่วนคนนอก และถูกมองว่าเป็น “สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์”

ซึ่งทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่า การศึกษารายละเอียดดังกล่าวนั้นจะทำให้เกิดความไม่เป็นกลาง ไม่ใช่การศึกษาที่เป็นเชิงวิชาการ แต่อาจถูกใช้เพื่อให้เป็นเกมต่อรองทางการเมือง ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ที่มีประเด็นข้อขัดแย้งกันในสภาผู้แทนราษฎร คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคภูมิใจไทยนั้นมี “เลขาฯนก” ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยแล้ว (นายชาดาขอให้ทำประชามติก่อน) ดังนั้นจึงต้องรอพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง

“เลขาฯบอย” นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนว่าต้องเลิกดึงว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นกาสิโน ข้อเท็จจริงคือเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ให้มีกาสิโน เพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งต้องใช้กฎหมายพิเศษ (เป็นโมเดลกฎหมายเดียวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี คือเป็นพื้นที่เฉพาะที่เว้นการบังคับใช้กฎหมายบางมาตรา การมีกาสิโนเพื่อให้เฉพาะพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้นเล่นการพนันถูกกฎหมายได้ แต่มีเงื่อนไขมากมายสำหรับคนไทย มุ่งนักเล่นต่างประเทศมากกว่า)
“ภาคการท่องเที่ยวสิ่งเดียวที่เราขาด คือ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ต้องยอมรับว่า สิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นการกินสมบัติเก่า เราจึงต้องแยกเป็นกฎหมายพิเศษให้ง่ายสำหรับการดูแล สิ่งที่รัฐบาลทำควบคู่ คือ ปราบปรามพนันผิดกฎหมาย ลงพื้นที่มาไม่มีประชาชนคัดค้าน ทุกคนเข้าใจหมด อย่าง จ.สระแก้ว เคยผ่านตรงนี้มาตอนที่กัมพูชาตั้งบ่อนริมชายแดน ดึงดูดคนไทยได้ส่วนหนึ่ง มีคนไทยไปทำงานฝั่งโน้นได้งานทำด้วยซ้ำ การจ้างงานในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็มีรายละเอียดในกฎหมาย”
“จะมีงานอีเวนต์ระดับโลกและคอนเสิร์ต วันนี้สถานที่ใหญ่สุดของเราก็คือสนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่ก็เป็นพื้นที่เปิดมีความเสี่ยงเรื่องฝน เรื่องความร้อน หากมีสถานที่จัดงานใหญ่ๆ มาจะช่วยได้มากเพราะเราเสียโอกาสตรงนี้มาเยอะ ส่วนที่จะบั่นทอนสังคมเราก็ต้องมาช่วยกันสร้างกฎเพื่อป้องกัน ถ้าฟังพรรคประชาชน (ปชน.) เขาก็ไม่ได้ติดใจ แต่บอกว่าช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะสม”

ส่วนเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐอเมริกา ที่ไทยก็ได้รับผลกระทบต้องจ่ายภาษีสูงขึ้น “อดีตนายกฯ แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน จะมาเยือนประเทศไทยในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ว่า จะชวนที่ปรึกษาประธานอาเซียนจากประเทศต่างๆ หลายคนเข้ามาพูดคุยเรื่องปัญหาภายในอาเซียน เรื่องฐานกำลังผลิตภายในอาเซียน การผนึกกำลังของอาเซียน เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการพูดคุยกับสหรัฐอเมริกามากขึ้น รวมถึงเรื่องของสันติภาพในเมียนมาด้วย
“เราจะไม่ไปในลักษณะที่เป็นแบบต่อรองเพื่อแลกอะไร แต่คุยในลักษณะว่ากลุ่มประเทศอาเซียนส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ต้องการการพัฒนา ต้องการเม็ดเงินจากประเทศที่พัฒนาแล้วอีกจำนวนมากที่จะทำให้เราแข็งแรง อยากให้เขาเข้าใจในบทบาทของอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนกับภูมิภาคนี้ ที่มีความสำคัญกับสหรัฐพอสมควร คุยกันแบบเป็นพันธมิตรมากกว่าการต่อรองกดดัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปพูดคุยครั้งนี้แสดงว่าเดาใจนายโดนัลด์ ทรัมป์ และคนรอบตัวได้แล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่รู้จักกันดี ซึ่งคนรอบตัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยเจอกันมาก่อน ส่วนการไปเจรจาของทีมไทยแลนด์น่าจะไหว คงไม่ทำให้ประเทศไทยลำบาก

อีกเรื่องหนึ่ง “สส.ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวผ่านรายการ MatiTalk ผ่านช่องยูทูบ matichon tv ว่า การเอาบางอย่างไปแลกกับการกลับบ้านของนายทักษิณ โดยไม่ต้องติดคุก ทำให้การปฏิรูปกองทัพ การแตะต้องกระเป๋าเงินของกลุ่มทุน การปฏิรูปรัฐราชการ ไม่เกิดขึ้นแน่นอนในรัฐบาลชุดนี้ เช่น ในเรื่องค่าไฟ คุณกล้าทำอะไรกลุ่มทุนพลังงานหรือไม่ รวมทั้งการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ต้องลงไปถึงการถอนรากไทยเทาจีนเทา ทำอะไรก็กระทบที่ดีล
สส.ไอซ์อยากปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้ไม่มีลักษณะบริหารแบบราชการที่ยุ่งยาก ขั้นตอนมาก ซึ่งที่ได้ตรวจสอบเรื่องการเช่าตึก มีกระแสตอบรับดี เนื่องจากคนที่ถูกตัดเงินเดือนเข้าประกันสังคมมีอารมณ์ร่วม “เรื่องนี้คงไม่หยุดแค่นี้ ตราบใดที่เรายังแก้ไขโครงสร้างประกันสังคมไม่ได้ เรื่องที่เราทำเป็นแค่ยอดภูเขาเล็กนิดเดียวเท่านั้น เราอยากป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างตึก Skyy9 ขึ้นอีก”
“ส่วนการไปดูงานต่างประเทศของประกันสังคมนั้น ก็คิดว่าเขาน่าจะกล้าไปอีก เคยคุยภายในพรรคว่าหากพรรค ปชน.เป็นรัฐบาล เราอาจจะทำเว็บไซต์ของรัฐบาลขึ้นมา ให้ทุกหน่วยงานที่ใช้งบประมาณภาษีหรืออยู่ภายใต้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ถ้าจะต้องไปดูงาน ต้องเอาข้อมูล กำหนดการ รายชื่อผู้เดินทาง แผนต่างๆ ขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาดูได้ และมีรายงานการประชุมหรือไม่ รัฐบาลนี้จะเอาไอเดียนี้ของเราไปทำก็ได้ ไม่ให้การดูงานคือการไปเที่ยว”
เมื่อถามถึงรูปแบบประกันสังคมในฝัน สส.ไอซ์บอกว่า เรื่องแรกคือสิทธิการรักษาพยาบาลจะต้องทำให้ไม่ต่ำกว่าประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือถ้าจ่ายเงินต้องดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเป็นบัตรทองพลัส หรือ สองคือลงทุนอย่างไรให้ประกันสังคมได้กำไรสูงสุด โดยมีแผนบริหารความเสี่ยงขั้นต่ำ สามอยากเห็นประกันสังคมออกจากระบบราชการ
“สิ่งที่เราอยากจะสื่อสารกับนายกฯ คือเราเข้าใจว่านายกฯ เป็นเหมือนเข้ามาฝึกงาน เหมือนตอนตนเป็น สส.แรกๆ ก็มีหลายสิ่งต้องเรียนรู้ แต่นายกฯ ต้องทำให้ความสามารถในการเรียนรู้พุ่งทะยานมากกว่าคนทั่วไป เพราะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ จึงต้องทุ่มเท อาจต้องละทิ้งครอบครัวหรือเวลาส่วนตัวบ้าง อย่างเสาร์-อาทิตย์ไม่ค่อยเห็นข่าวนายกฯ เพราะพักผ่อนกับครอบครัว อาจไม่ผิด แต่ต้องตระหนักในหน้าที่ว่าคุณจะต้องมีความสามารถในการเรียนรู้ที่สูงกว่าคนอื่น และต้องรู้ทุกเรื่อง คุณมีทรัพยากรมากมายอยู่รายล้อม”
สำหรับการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช มีแหล่งข่าวในพื้นที่กล่าวว่า เริ่มจะมีการจ่าย 200-300 บาท คนจดและคนรวบรวมจะได้ 100-150 บาท และหากได้ยอดตรงเป้าอีก 300 บาท สุดท้ายลงคะแนนแล้วมาจ่ายอีก 500 บาท บางทีเจ้าของรายชื่อยังไม่ทราบด้วยซ้ำไป โดยมีคนมารายงานว่า แถว อ.ช้างกลาง จ่ายไปแล้ว เยาวชนคนรุ่นใหม่อาสาจับตาการซื้อเสียง เราจะจับอย่างจริงจัง และแชร์ลงในโลกโซเชียล
จะกาบัตรวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย.นี้ การหาเสียงเป็นไปอย่างเข้มข้น เพราะเป็นการแย่งเก้าอี้ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง ภูมิใจไทย กล้าธรรม ประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคประชาชน (ปชน.) ก็ส่งคนลงด้วย คือ นายณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง ซึ่งอาจมีโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียงจนตัดคะแนนกันเอง จนนายณัฐกิตติ์ได้รับเลือกตั้ง ตัวเก็งที่คาดว่าจะฟาดฟันกันอย่างหนัก คือ “สจ.บิ๊กโอ” นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม เป็นลูกเขยของ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์