เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายสมเกียรติ ชูแสงสุข อายุ 66 ปี ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ภายใต้สภาวิศวกร และวุฒิสมาชิก สาขาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.บางซื่อ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังวานนี้ (13 เม.ย.) ได้ลงบันทึกประจำวัน โดยมีการแอบอ้างชื่อในเอกสารแก้ไขแบบปล่องลิฟต์ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว ในฐานะผู้ควบคุมงานของกิจการร่วม
นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ตนมาให้การพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติม มายื่นให้กับพนักงานสอบสวนในกรณีที่ถูกแอบอ้างชื่อไปใช้ในการแก้ไขแบบปล่องลิฟต์ของอาคาร สตง. แห่งใหม่ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการโครงสร้างอาคารดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าปี 2563 ได้รับติดต่อมาจากกิจการค้าร่วม PKW ซึ่งตนไม่ได้รู้จักกับกิจการค้าร่วมนี้แต่อย่างใด แต่รู้จักบุคลากรที่เกี่ยวข้องในกิจการค้าร่วมนี้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่บุคคลที่ติดต่อมาก็หายเงียบไปเองโดยไม่ได้มีการการตกลงเซ็นเอกสารใดๆ ให้กับบุคคลรายนี้ กระทั่งเรื่องมาแดงตรงที่น้องของตนมาบอกว่า ตนถูกแอบอ้างชื่อไปว่าเป็นวิศวกรที่คุมโครงการดังกล่าว

ซึ่งหลังจากทราบเรื่องรู้สึกตกใจ เลยมีการไปปรึกษาผู้ใหญ่และมาลงบันทึกประจำวันที่ สน.วังทองหลาง ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้แต่อย่างใด โดยหลังจากเป็นข่าวออกไป ได้มีบุคคลที่คาดว่าจะโทรฯ มาจากกลุ่มกิจการค้าร่วม PKW ติดต่อในลักษณะที่ว่าเกิดเหตุการณ์นี้แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง ตนเลยบอกว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้ ซึ่งมีการแอบอ้างชื่อตนมาตั้ง 5 ปี คงช่วยอะไรไม่ได้
และจากการตรวจสอบลายเซ็นดังกล่าว พบว่าเป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด โดยตำแหน่งของตนที่ถูกเอาไปอ้างก็คือผู้จัดการโครงการ ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มาก ซึ่งตนจบวิศวะมา 2 สาขา คือ สาขาวิศวะโยธาและวิศวะสิ่งแวดล้อม ในส่วนที่เอาไปแอบอ้างคือสาขาวิศวะโยธา ซึ่งอัตราค่าจ้างเป็นรายเดือน หากรับงานราชการก็จะได้ประมาณเดือนละมากกว่า 1 แสนบาท โดยคาดว่าบริษัทที่แอบอ้างชื่อตน อาจจะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ซึ่งตอนนี้กำลังปรึกษากับทีมกฎหมายของตนอยู่ว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการวางศาลเท่าไหร่ และค่าทนายเท่าไหร่ และรวมถึงหากคำนวณเป็นเงินในระยะเวลา 5 ปี ที่ถูกแอบบ้างนั้น จะคุ้มกันไหม ที่ตนต้องออกมาในวันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชื่อเสียงของตนนั้นไปถูกแอบอ้างทำให้เกิดความเสียหาย