สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลวอชิงตัน ในการเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่าหากคู่เจรจาฝ่ายหนึ่งทำให้กระบวนการนั้น “เป็นเรื่องยุ่งยาก” เท่ากับว่า “มีเหตุผลเพียงพอที่สหรัฐจะบอกผ่าน” แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “จะไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น”


ถ้อยแถลงดังกล่าวของทรัมป์ เป็นการสะท้อนคำกล่าวของนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวระหว่างการเยือนกรุงปารีส ว่าความพยายามของรัฐบาลวอชิงตันในการเป็นคนกลาง และการเป็นผู้ประสานงานในการเจรจาสร้างสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน “ไม่ใช่ภารกิจตลอดกาล” สหรัฐกำลังมุ่งมั่นให้กระบวนการทั้งหมดขับเคลื่อนและได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด


รูบิโอยืนยัน ว่ารัฐบาลวอชิงตันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ในเวลาเดียวกัน มีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน และสมควรได้รับการให้ความสำคัญในระดับเดียวกัน


อนึ่ง ทรัมป์เพิ่งกล่าวว่า การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเรื่องแร่ธาตุกับรัฐบาลเคียฟ น่าจะเกิดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ในสัปดาห์หน้า ขณะที่รัฐบาลเคียฟเปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันใน “เอกสารบันทึกความเข้าใจ” เพื่อปูทางสู่เรื่องนี้แล้ว


ก่อนหน้านั้น รูบิโอปฏิเสธเสียงวิจารณ์ของหลายฝ่าย ในประเด็นที่การเจรจากับรัสเซียแทบไม่มีความคืบหน้า โดยยืนยันว่า ทรัมป์ “ไม่ได้ติดกับดัก” ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ต้อง “เจรจาอย่างไม่รู้จบ” กับรัสเซีย


จนถึงตอนนี้ ปูตินยังคงปฏิเสธ “การหยุดยิงโดยปราศจากเงื่อนไข” โดยรัสเซียยังคงเน้นย้ำเงื่อนไขของตัวเอง หากจะมีการหยุดยิงในทะเลดำ และการเรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร อีกทั้งยังเสนอให้มี “รัฐบาลเฉพาะกาล” ในยูเครน ภายใต้การนำของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งสื่อโดยนัยว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ต้องพ้นจากตำแหน่ง.

เครดิตภาพ : AFP