เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 68 นายมิน หม่อง คนงานชาวเมียนมา อายุ 43 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ และรอดชีวิตจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มลงมาจากแผ่นดินไหว พร้อมล่าม เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองทำงานอยู่ชั้น 29 กับเพื่อนร่วมงานคนไทย เป็นชาย 4 คน พนักงานหญิงไทย 4 คน และแรงงานข้ามชาติ 6 คน ซึ่งเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เพื่อนๆ ก็มารวมกลุ่มกัน ตอนนั้นอยู่โซนด้านหลัง ติดกับลานจอดรถ (โซน B กับ C) ซึ่งฝั่งนั้นมีจุดที่พนักงานสามารถดื่มน้ำได้

นายมิน กล่าวต่อว่า ในตอนนั้นคิดแล้วว่าคงไม่รอดชีวิตแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้แม่บอกให้กลับบ้าน แต่ตนเองก็ปฏิเสธมาตลอด ตอนแผ่นดินไหว เลยคิดแค่ว่า คงไม่มีโอกาสได้กลับไปเจอแม่แล้ว เพราะเมื่อเกิดมาคนเดียว ก็ต้องตายคนเดียว ตนเองจึงเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนไม่ไกลกันมาก แล้วเริ่มมีเศษปูนหล่นมาใส่หัว ตนเองเลยปัดหัว แล้วก็มีก้อนปูนใหญ่มากหล่นลงมาโดนศีรษะ จากนั้นไม่ถึง 2 นาที ตึกก็ถล่ม อีกทั้งในตอนที่ตึกถล่มลงมา ทำให้ตนเองตัวกระเด็นออกมาชั้น 29 เป็นช่องว่าง ไม่แน่ใจอยู่ส่วนไหนของตึกมารู้ตัวอีกที ศีรษะได้รับบาดเจ็บ มีเลือดท่วมออกมา

“วินาทีนั้น คิดว่าจะต้องออกไปให้ได้ เมื่อมองไปรอบๆ ก็ไม่เจอคนเลย แต่พอจะออกจากกองซากที่ถล่ม ปรากฏว่าขาจมอยู่กับซากซีเมนต์ ก็เลยพยายามดึงขาออกมา และหาช่องว่างมุดออกมา แต่เนื่องจากร่างกายตัวใหญ่ จึงตัวติดซาก แต่ก็พยายามหาทางมุดออกมา จนมีบาดแผลตามลำตัวเป็นจำนวนมาก ตอนนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเพื่อนขอให้ช่วยเหลือ เชื่อว่าเพื่อนร่วมงาน ยังค้างอยู่ที่ชั้น 29 และติดอยู่ใต้ซากอาคาร” นายมิน กล่าว

นายมิน ยังเล่าอีกว่า ตอนที่ตนเองเห็นอาคารถล่ม ลักษณะเป็นการหักและยุบตัวลงจากข้างใน แล้วถล่มลงไปพร้อมกับตึก ซึ่งตนยังจำภาพคานที่สไลด์ออกไปได้จนถึงวันนี้ พร้อมยอมรับว่า ผู้เสียชีวิต แม้ว่าไม่ใช่ญาติ แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี และสนิทกันมาก ซึ่งตนก็เสียใจกับเขาด้วย เพราะทำงานร่วมกันมา 3 ปีแล้ว

ส่วนตลอดช่วงเวลาที่ทำงาน นายมิน ยืนยันว่า ตนเองได้ค่าแรงครบถ้วน อาจจะมีช้าไปบ้าง ประมาณ 4-5 วัน ส่วนงานที่รับผิดชอบ คือ ทำหน้าที่เจาะซีเมนต์ เสริมเหล็ก มัดเหล็ก ตีแบบเทปูน และอีก 25 วัน จะเสร็จสิ้นแล้ว.