เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมติดตามกรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงลุกไหม้ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีข้อสั่งการเพิ่มเติม ดังนี้ 1. ให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณากำหนดเงื่อนไขการเดินรถเป็นกรณีพิเศษ โดยห้ามรถโดยสารสาธารณะประเภท รถโดยสารสองชั้นทุกชนิด ทั้งรถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทาง เดินรถในเส้นทางที่มีความลาดชัน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว, 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ฮ่องสอน-แม่ตีบ, 3.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม,

5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, 6.ทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว และ 7.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง โดยให้ผู้ประกอบการขนส่ง ดำเนินการจัดรถโดยสารประเภทรถโดยสารชั้นเดียวเข้าทำการเดินรถแทนในเส้นทางดังกล่าว กรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถเปลี่ยนรถตามที่กำหนดได้ ให้ ขบ. หารือกับผู้ประกอบการในการเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถเป็นเส้นทางอื่นที่มีความปลอดภัย และไม่ผ่านจุดเสี่ยงตามที่กำหนด

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า 2. ให้ ขบ. เรียกรถโดยสารสาธารณะทุกคันที่มีเส้นทางการเดินรถผ่านจุดเสี่ยงทั้ง 7 เส้นทาง เข้าตรวจสภาพทางเทคนิคโดยละเอียดใหม่ทั้งหมด โดยเน้นการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบห้ามล้อ (Braking System) ให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ และเกณฑ์ความปลอดภัยที่กฎหมายกำหนด หากพบว่ารถคันใดมีสภาพอุปกรณ์ไม่ครบถ้วน หรือบกพร่อง ให้สั่งระงับการใช้รถดังกล่าว จนกว่าจะได้รับการแก้ไขให้มีความปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบจากพนักงานตรวจสภาพรถที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย

3. ให้ ขบ .มีคำสั่งพนักงานตรวจการขนส่งดำเนินคดีกับผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ขับรถที่ฝ่าฝืนไม่นำรถเข้าจุดตรวจ (Checking Point) ตามที่กำหนด โดยใช้อัตราโทษสูงสุด นอกจากนี้ ให้จัดทำรายงานการเดินทางของรถโดยสารสาธารณะที่ผ่านจุดเสี่ยงทั้ง 7 เส้นทาง เพื่อเป็นการควบคุมกำกับและป้องปรามการกระทำ ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการขนส่ง และ 4. ให้ ขบ. พิจารณากำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะเพิ่มเติม โดยให้บังคับติดตั้งระบบตรวจสอบ และยืนยันตัวตนของผู้ขับรถ (Driver Identification System) ที่สามารถตรวจสอบ และยืนยันตัวตนผู้ขับรถก่อนการใช้งานยานพาหนะได้

และให้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในห้องโดยสารและบริเวณหน้ารถ เพื่อบันทึกพฤติกรรมการขับรถ และสภาพการเดินรถตลอดเส้นทาง โดยข้อมูลการบันทึกต้องสามารถเรียกดูย้อนหลังได้ และสามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์บริหารจัดการเดินรถโดยสารสาธารณะของ ขบ. ได้ตามที่ร้องขอ อย่างไรก็ตาม ต้องพูดคุยกับผู้ประกอบการอย่างจริงจัง และต้องเด็ดขาด เพื่อรักษาชีวิตประชาชน ไม่ให้เกิดการสูญเสียอีกต่อไป.