เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมครอบครัวคุณตาและคุณยาย ที่ถูกลูกนักเมืองดังขับรถบีเอ็มพุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บมอบเงินที่ได้รับบริจาคจากพลเมืองดีและเอฟซีของ “กัน จอมพลัง” ให้แก่ผู้เสียหายอีกรายที่เคยถูกลูกชายคนโตของนักการเมืองดังใช้ไม้ฟาดศีรษะจนกะโหลกยุบ

กัน จอมพลัง ระบุว่า หลังจากนี้เมื่อวานนี้ครอบครัวตายายได้รับเงินบริจาครวม 500,000 บาท ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวตายาย ได้ข้อสรุปว่าทางครอบครัวประสงค์ที่จะรับเงินไว้เพียง 250,000 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 250,000 บาท ต้องการให้นําไปช่วยเหลือสังคม ซึ่งในส่วนแรกความตั้งใจของคุณตาและคุณยาย คือ มอบเงิน 100,000 บาท ให้กับผู้เสียหายกรณีที่ก่อนหน้านี้เคยถูกลูกชายคนโตของนักการเมืองดังใช้ไม้ฟาดจนศีรษะบุบเพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาความรู้สึกและนําเงินในส่วนนี้ไปรักษาตัว

ส่วนอีก 150,000 บาท จะขอนําไปช่วยเหลือด้านอื่นๆ บางส่วนอาจจะนําไปซื้อกระเช้ามาขอบคุณพลเมืองดีที่ถ่ายคลิปในวันเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานให้กับทางครอบครัวและจะนําบางส่วนไปช่วยเหลือผู้สูงอายุในสถานที่ต่างๆ โดยได้มีการมอบเงิน 100,000 บาท ด้วยการโอนพร้อมโชว์สลิปต่อหน้าสื่อมวลชน

ขณะที่ผู้เสียหายกะโหลกยุบ ได้กล่าวขอบคุณครอบครัวตายายและ กัน จอมพลัง พร้อมเปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงปัจจุบันผ่านมานานนับ 10 ปี ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากฝั่งคู่กรณี ซึ่งที่ผ่านมาต้องหมดค่าใช้จ่ายกว่า 1 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นค่าต่อสู้คดีในชั้นศาลและค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายควบคู่กันไป ซึ่งทางครอบครัวเป็นผู้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อชีวิตของตนเป็นอย่างมากจากที่ต้องเรียนจบพร้อมเพื่อนกลายเป็นว่าต้องมารักษาตัวให้หายก่อนและไม่ได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน หลังจากนี้ยืนยันว่าจะโพสต์ถึงคู่กรณีต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คู่กรณีได้รู้ว่าควรจะต้องรับผิดชอบต่อทุกคนกับสิ่งที่ได้กระทํา เพราะขณะนี้ก็ยังไม่เห็นความรับผิดชอบจากใจจริงของฝั่งคู่กรณี อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่องทางฝั่งคู่กรณียังไม่มีการติดต่อเข้ามาหรือข่มขู่ใดๆ

“ทั้งนี้อยากขอบคุณขอบครัวคุณตาและคุณยายที่ช่วยเหลือในวันนี้และขอให้ตายายรักษาตัวให้หายในเร็ววัน พร้อมฝากถึง กัน จอมพลัง ให้ช่วยดูแลคุณตาคุณยาย ส่วนตัวยอมรับว่าคิดมากทั้งคืนเพราะเงินที่ได้รับนั้นเป็นเงินที่ผู้เสียหายเยียวยากันเอง ส่วนตัวมองว่าสังคมไทยไม่ควรเป็นแบบนี้ควรได้รับการเยียวยาจากคู่กรณีที่ทําผิดไม่ใช่ประชาชนมาช่วยเหลือกันเอง” เหยื่อลูกนักการเมือง กล่าว