กรณีเดลินิวส์ ตามเกาะติด คณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร บริเวณพื้นที่ชายแดน จ.ระนอง-ชุมพร โดย ผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าร้องทุกข์กับ ป.ป.ช. และ ตำรวจ ป.ป.ป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินคดีกับข้าราชการและผู้เกี่ยวข้อง ที่เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนให้กลุ่มคนไทย เข้าไปบุกรุกพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันและยางพารา แล้วนำกลับเข้ามาขายในประเทศไทย จนสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ยังพบบริเวณดังกล่าวมีการซ่องสุมกำลัง รวมถึงมีการตั้งค่ายพักคอย “แรงงานโรฮีนจา” ประชิดตะเข็บชายแดนไทย เพื่อรอเวลาฉวยโอกาสเคลื่อนย้ายแรงงาน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
“นายพลกะเหรี่ยง” โผล่ชายแดนใต้! แฉ “ตร.-ทหาร” เอี่ยวค้าโรฮิงญา! “ปวีน” ลี้ภัยเพราะถูกคุกคาม?!

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.ส่วนสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ของคณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรบริเวณพื้นที่ชายแดน จ.ระนอง-ชุมพร พบหลักฐานการบกพร่องต่อหน้าที่ของทหารสังกัด กองทัพภาค 4 อย่างชัดเจน อาทิ การปล่อยให้มีการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน และมีการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อเส้นทางข้ามชายแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่มีการห้ามปรามจับกุม หรือทำลายหรือสร้างสิ่งกีดขวาง อันเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวตะเข็บชายแดนตามภารกิจ

ร.ต.ต.พงศกร กล่าวด้วยว่า “ก่อนหน้านี้วันที่ 20 ก.พ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอผ่านผู้บัญชาการทหารบก ไปยังกองทัพภาค 4 ให้ดำเนินการมาตรการทางปกครองกับทหารที่เกี่ยวข้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ยังคงมีเจ้าหน้าที่ชุดเดิมประจำการอยู่ในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่า ในส่วนของการขนย้ายพืชผลทางการเกษตรจากฝั่งเมียนมาเข้ามาขายในประเทศไทย ยังคงทำกันปกติ เพียงแต่ย้ายพื้นที่จากด้าน จ.ชุมพร ขยับเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ระนอง โดยหลังจากนี้จะได้ทวงถามความคืบหน้าไปยังกองทัพบกต่อไป หากยังไม่ดำเนินการใดๆ อาจจะเข้าข่ายละเว้นก็เป็นได้”

ร.ต.ต.พงศกร กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน ชุมพร-ระนอง กระทบทั้งต่อความมั่นคงของประเทศ ทางเศรษฐกิจ และการทำผิดกฎหมายอาญา แต่การดำเนินการในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ในฐานะที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญไทย มีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง และเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามโดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่นำข้อเท็จจริงเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป