จากกรณี นายธุรการ ยังบรรเทา อายุ 67 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังสหกรณ์ ปี 2562 ก่อเหตุใช้ปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงนายสมัชฌ์ ประชุมพันธ์ อายุ 40 ปี และ ร.ต.ทำนุ แจ้งจิตร อายุ 61 ปี จนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมี น.อ.สันชัย ประชุมพันธ์ อายุ 59 ปี ถูกยิงกลางหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 549/185 ชุมชนคลองล่าง ซอยอำนวยผล 8 ถนนจรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ขณะที่กลุ่มผู้ตายและคนเจ็บกำลังเล่นเปตอง เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุเรื่องเล่นเปตองขวางทางเข้าออกบ้าน นอกจากนี้ยังมีประเด็นความขัดแย้งเรื่องของที่ดินมรดกที่ยืดเยื้อ กระทั่งมีการเล่นเปตองขวางทางเข้าบ้าน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อดีตผู้สมัครส.ส.ปืนโหดรัวยิงญาติดับ2ศพ อ้างป้องกันตัว
ฉุนเล่นเปตองขวางทางเข้าบ้าน อดีตผู้สมัครส.ส.ยิงเครือญาติดับ2ศพ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่สน.บางขุนนนท์ พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะนำตัวนำตัวนายนายธุรการไปยื่นฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,พยายามฆ่า ,พกพาอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนในที่สถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และบุกรุกเคหสถาน พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงจะตรวจสอบกรณีที่ฝั่งลูกชายผู้ต้องหาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพยานหลักฐานหาข้อเท็จจริงถึงมูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้

พ.ต.อ.ธีระ​ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ลูกชายผู้ก่อเหตุอยู่ที่เกิดเหตุแล้วถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุไว้โดยไม่มีการห้ามปรามนั้น ทางตำรวจอยู่ระหว่างรวมหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุครั้งนี้หรือไม่ หากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องก็จะมีการพิจารณาดำเนินคดี

เมื่อถามว่า ตำรวจมีมาตรการป้องกันกรณีปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งของเครือญาติผู้ก่อเหตุ อาจจะนำไปสู่เหตุความรุนแรงหรือไม่นั้น ผกก.สน.บางขุนนนท์ กล่าวว่า ตำรวจได้มีการวางมาตรการป้องกันโดยให้สายตรวจ ไปทำความเข้าใจ รวมทั้ง ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับครอบครัวผู้เสียหาย หากหวั่นว่าจะเกิดความรุนแรง สามารถโทรแจ้งตำรวจได้โดยตรงทันที

จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายธุรการไปฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชัน โดยระหว่างที่นายธุรการกำลังจะขึ้นรถ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนถูกด่าทอก่อนด้วยคำหยาบคายว่า เป็นหมาวัด เป็นคำพูดที่จี้ใจดำ เนื่องจากตนเองเคยอาศัยอยู่ที่วัดจริง ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาเล็งยิงให้ถึงชีวิต เพราะไม่ได้ยิงปืนมานานหลายปีแล้ว ทั้งนี้ตนอยากฝากขอโทษผู้ตาย และอยากนำเงินไปช่วยเหลืองานศพ ส่วนประเด็นที่มีข้อพิพาทเรื่องที่ดินนั้น ยอมรับว่ามีปัญหากันมาก่อนหน้านี้จริง โดยวันที่ 14 ก.พ.65 ตนตั้งใจจะไปไกล่เกลี่ยกันในวันนั้น แต่กลับมาด่าทอกระทบจิตใจตนเสียก่อน จึงทำให้บันดาลโทสะก่อเหตุยิงดังกล่าว

ด้าน นายปองภูมิ ยังบรรเทา ลูกชายของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์ว่า วันนี้ไม่ได้เดินทางมาที่โรงพัก เนื่องจากเดินทางไปที่ศาลอาญาตลิ่งชันพร้อมทนายความ เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวพ่อ โดยเตรียมหลักทรัพย์มาจำนวนหนึ่ง.