เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 68 ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายฐิติพงษ์ โพธิพรหม หรือช่างเบิร์ด หัวหน้าวางระบบไฟของอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ และผู้รับเหมาเจ้าอื่นๆ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีไม่ได้รับค่าจ้างหรือเงินค่าตอบแทนจากการก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่
นายฐิติพงษ์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ได้รับจ้างจากบริษัท ก้าวพีเค จำกัด ให้เข้าร่วมดำเนินการก่อสร้างตึก สตง. โดยมีสัญญาว่าจ้างเป็นหลักฐาน มีการส่งมอบงานต่างๆ แต่ปรากฏว่าทางบริษัทไม่ยอมชำระค่าจ้าง โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเงินจากอิตาเลียนไทย-ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 โดยทำเอกสารผัดผ่อนมาหลายครั้ง ทำให้ตนและแรงงานอีกหลายคนไม่ได้รับค่าจ้าง แม้จะส่งมอบงานไปแล้ว

“ผมประท้วงเรื่องนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ทำหนังสือแล้วก็ไม่เป็นผล ทวงถามแต่ละรอบไปก็ได้คำตอบแค่ว่ายังไม่ได้รับการจ่ายเงิน แต่พอถามไปยังบริษัทจีนได้คำตอบว่าจ่ายไปแล้ว สตง.เองก็บอกว่าจ่ายไปแล้ว แต่สุดท้ายเงินก็ไม่ถึงมือแรงงาน วันนี้จึงได้เข้าไปที่ สตง. เพื่อจะไปเจอผู้ว่าสตง. แต่ได้รับทราบว่าไปประชุม ไม่ทราบว่าหลบหน้าผมหรือไม่ ผมกะจะไปรอดักให้ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มา เห็นเพียงแต่ทีมงานของ สตง. ส่วนทางผู้บริหารของบริษัทอิตาเลียนไทยก็ให้สัญญาว่าจะจ่ายภายใน 10-15 วัน โดยให้บริษัท ก้าวพีเค ตั้งเบิกไป ผู้รับเหมาจะได้เอาเงินมาจ่ายผู้รับเหมาให้จบ แต่ผ่านมา 2 เดือนกว่าเรื่องไม่คืบหน้า” นายฐิติพงษ์ กล่าว
นายฐิติพงษ์ กล่าวต่อว่า แม้ในเอกสารจะมีลายเซ็นของผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย-ไชน่าฯ เพื่อสร้างความมั่นใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงิน ซึ่งทุกเจ้าไม่ได้สักบาทเหมือนกัน จนถึงขั้นต้องนำบ้าน ที่ดิน รถ ไปจำนำ ตอนนี้จะโดนยึดกันหมดแล้ว จึงอยากให้ทาง สตง. นัดทางบริษัทอิตาเลียน-ไชน่าฯ และก้าวพีเค เข้ามาคุย แต่ขั้นตอนต่างๆ ก็ยังเงียบไป พวกตนไม่มีทางที่จะไปแล้ว ทั้งกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองแรงงาน สน.บางซื่อ สตง. พวกเราก็ไปแล้ว ก็เลยลองมาที่นี่และขอให้เป็นที่สุดท้าย จะไม่ไปไหนแล้ว รอดูว่า สตง.จะนัดบริษัทต่างๆ มาไกล่เกลี่ยให้อย่างไร

นายฐิติพงษ์ กล่าวด้วยว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าจากกระทรวงยุติธรรม ได้คำตอบแค่ว่า กำลังดำเนินการให้อยู่ แต่ตนคิดว่ามันล่าช้า ตนมาทวงไม่ได้เพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายคนที่เดือดร้อน และไม่รู้ว่าคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปจะได้ค่าจ้างเท่าไหร่ เผลอๆ บางคนตายฟรี ค่าแรงก็ไม่ได้ งานก็ทำไปแล้ว ตายแบบนี้รัฐจ่ายเยียวยาไม่ถึง 5 แสนบาท คุ้มหรือไม่กับชีวิตคนๆ หนึ่ง ทั้งนี้ ได้ยินมาว่าอิตาเลียนไทย-ไชน่าฯ จะเยียวยาศพละ 1 ล้านบาท ตนก็อยากให้เป็นจริง ไม่มีใครสมควรต้องมาตายเพราะเรื่องแบบนี้ เรื่องที่หน่วยงานรัฐมักง่ายแบบนี้
“หวังอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะเคร่งเรื่องนี้ และเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก เพราะถ้าเกิดขึ้นอีก มีแต่แรงงานที่ตาย คุณไม่ได้มาตายกับแรงงาน แต่ผมอยากรู้ว่าถ้าตึกสร้างเสร็จ ญาติของพวกคุณจะรู้สึกยังไง พวกเราเศร้าน้ำตาจะไหล” นายฐิติพงษ์ กล่าว ก่อนจะใช้มือเช็ดน้ำตา
ด้านนายณัฐชา กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้า กมธ. เพื่อพิจารณาส่งหนังสือไปยัง รมว.แรงงาน โดยเร็ว เพราะยังมีแรงงานกว่า 500 ชีวิตรอคอยคำตอบอยู่.