สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่า เบสเซนต์ เขียนในจดหมายถึงนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสปรับเพิ่มหรือระงับเพดานหนี้ของประเทศ ภายในช่วงกลางเดือน ก.ค. นี้ เพื่อปกป้องความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐกู้ยืมเงินเกินกว่าเพดานหนี้ที่สภาคองเกรสอนุมัติ ประมาณ 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,185 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้กระทรวงการคลังสหรัฐต้องใช้ “มาตรการพิเศษ” เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่รัฐบาลวอชิงตันจะผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ สภาคองเกรสที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อปรับเพิ่มเพดานหนี้ดังกล่าว ตามส่วนหนึ่งของมาตรการภาษีและการใช้จ่ายที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยยึดตามลำดับความสำคัญด้านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม การเจรจาจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถแปลงเป็นกฎหมายที่สามารถผ่านทั้งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และวุฒิสภาสหรัฐได้

“เหตุการณ์ก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า การรอจนถึงนาทีสุดท้าย อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อตลาดการเงิน ธุรกิจ และรัฐบาลกลาง อีกทั้งความล้มเหลวในการระงับหรือเพิ่มเพดานหนี้ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินของเรา รวมถึงลดทอนความมั่นคงของอเมริกา และตำแหน่งผู้นำระดับโลก” เบสเซนต์ กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP