Gen Y ของไทยก็เช่นกัน โตมาก็ไม่ชอบเพื่อน ๆ ที่โกงข้อสอบ ยิ่งตอนนี้กำลังเบื่อหน่ายข่าวฉาวการทุจริตในระบบราชการรายวัน จนจำไม่ได้แล้วว่าข่าวไหนเป็นข่าวใหญ่ เพราะมีข่าวที่ใหญ่กว่าออกมาเรื่อย ๆ จนข่าวเดิมเงียบหายไป ในที่สุดก็หาตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้ ไม่พบคนผิด จับตัวข้าราชการ และผู้สมรู้ร่วมคิดมาลงโทษติดคุกไม่ได้สักคน

ชาว Gen Y หันมาชื่นชม “รายการโหนกระแส” ที่ขยี้ข่าวฉาวทุกวัน เปิดทุกมุมมอง จนปิดเคสได้ ส่งคนผิดเข้าคุกทันใจ

แล้ว Gen Y ชื่นชมรัฐบาลประเทศไหน

1.สิงคโปร์ มักจะเป็นชื่อแรกที่โดดเด่นขึ้นมา เขามีระบบราชการขนาดเล็ก   มีประสิทธิภาพสูง ทำงานรวดเร็ว เอาจริงกับคอร์รัปชัน ระบบราชการของเขาใช้มาตรฐานเช่นเดียวกับภาคธุรกิจ โปร่งใสจนข้าราชการไม่กล้าโกง

2.ฮ่องกง เป็นระบบที่อังกฤษวางไว้ให้โปร่งใส บริหารงานรวดเร็วลดขั้นตอนคล้ายธุรกิจ มีบทลงโทษหนัก และตำรวจปราบคอร์รัปชันเอาจริง ประชาชนช่วยสอดส่อง ทำให้สามารถเป็นศูนย์กลางการเงิน และการค้าที่เชื่อถือได้

3.นิวซีแลนด์ ใช้ผลความพึงพอใจของประชาชนเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาล มีระบบการร้องเรียนที่ต้องรีบสอบสวน เอาผิด ลงโทษ และแจ้งผลต่อประชาชนอย่างโปร่งใส รวดเร็ว

4.UAE United Arab Emirates ใช้มาตรฐานการจัดการด้วยระบบดิจิทัล เน้นนวัตกรรมภาครัฐเพื่อบริการประชาชน สามารถแจ้งความไม่ชอบมาพากลออนไลน์ และติดตามความคืบหน้า นำคนผิดมาลงโทษได้รวดเร็ว

ในยุคที่เศรษฐกิจไทยกำลังจะซบเซายาวนาน ถึงเวลาที่ประเทศชาติต้องประหยัด แต่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐกลับช่วยกันถลุงงบประมาณอย่างสุรุ่ยสุร่าย ชงโครงการที่ไม่เหมาะสมผ่านสภา ผ่าน ครม. กันอย่างครึกโครม ขัดใจ Gen Y

ชาว Gen Y จึงขอแนะนำนายกฯ ที่ Gen เดียวกัน ให้รีบแก้วิกฤติ SDG16 เอาจริงกับการทุจริตคอร์รัปชันทุกกรณี เพื่อเรียกศรัทธาของประชาชนคืนมา   ถ้าเราปราบคอร์รัปชัน และไม่สุรุ่ยสุร่ายกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม เราน่าจะมีงบประมาณคืนมาราว 30% และถ้าเราควบรวมหน่วยงานที่ซ้ำซ้อน ยุบหน่วยงานที่ล้าสมัยไม่จำเป็น เราน่าจะมีงบประมาณคืนมาอีกราว 30% จากงบประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท เราน่าจะมีเงินกลับมาพัฒนาประเทศได้ราว 1-1.5 ล้านล้านบาททันที

นายกฯ Gen Y รีบเอาใจ Gen เดียวกัน ปราบคอร์รัปชันรอบ ๆ ตัว เรียกศรัทธา Gen Y คืนมา อย่ามัวฟัง Baby Boomer หรือ Gen X ที่ไม่เอาจริงเรื่องนี้.