สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่า รายงานจากมหาวิทยาลัยเคอร์ตินของออสเตรเลีย เผยแพร่ในวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ (Science Advances) ระบุว่า ชิ้นส่วนลูกแก้วเหล่านี้มีส่วนประกอบของแมกนีเซียมสูงผิดปกติ ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจมีต้นกำเนิดที่ลึกยิ่งกว่านั้นอยู่ด้านในดวงจันทร์ ต่างจากวัตถุโปร่งแสงบนดวงจันทร์ (lunar glass) ทั่วไป ที่เกิดจากแรงกระแทกบนพื้นผิว
ศ.อเล็กซานเดอร์ เนมชิน จากคณะธรณีศาสตร์และดาวเคราะห์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเคอร์ติน กล่าวว่า ลูกแก้วที่มีแมกนีเซียมสูงเหล่านี้อาจก่อตัวขึ้น เมื่อครั้งดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนหิน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชั้นแมนเทิล หรือชั้นเนื้อดาวของดวงจันทร์ภายในดวงจันทร์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะไม่เคยมีการตรวจตัวอย่างจากชั้นเนื้อดาวของดวงจันทร์โดยตรงมาก่อน และลูกแก้วเล็กจิ๋วเหล่านี้ทำให้เห็นส่วนภายใน ที่ซุกซ่อนอยู่ของดวงจันทร์
องค์ประกอบของลูกแก้วดังกล่าวแตกต่างจากวัสดุบนดวงจันทร์ ที่เคยศึกษากันมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบ่งชี้ว่า ลูกแก้วอาจปรากฏขึ้นมาบนพื้นผิวระหว่างการก่อตัวของแอ่งอิมเบรียม (Imbrium Basin) ซึ่งเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ ที่มีอายุมากกว่า 3,000 ล้านปี
การสำรวจระยะไกลเผยว่าพื้นที่รอบขอบแอ่งดังกล่าวมีแร่ธาตุตรงกับเคมีของลูกแก้ว และหากตัวอย่างเหล่านี้มาจากชั้นเนื้อดาวของดวงจันทร์จริง มันจะช่วยยืนยันได้ว่าการพุ่งชนครั้งใหญ่ สามารถนำพาเอาสสารที่อยู่ลึกซึ่งเข้าถึงไม่ได้มาก่อนขึ้นมาสู่พื้นผิวดวงจันทร์ นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในการทำความเข้าใจวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์
ศ.หวังเสี้ยวเหล่ย ผู้เขียนหลักจากมหาวิทยาลัยหนานจิงของจีน กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้อาจช่วยกำหนดขอบเขตภารกิจสำรวจดวงจันทร์ในอนาคต โดยการเปิดเผยโครงสร้างภายในของดวงจันทร์ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเปรียบเทียบดวงจันทร์กับโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น และเอื้อต่อการวางแผนการสำรวจด้วยหุ่นยนต์หรือมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA