สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ปิดฉากการเยือนกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 3 แห่ง ในสัปดาห์นี้ โดยมีกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี เป็นจุดหมายแห่งสุดท้าย เมื่อวันศุกร์ โดยทรัมป์ได้รับคำมั่นการลงทุนจากรัฐบาลยูเออี สูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 46.56 ล้านล้านบาท) ภายในกรอบระยะเวลา 10 ปี
“The gleaming marbles of Riyadh and Abu Dhabi were not created by the so-called nation builders, neocons, or liberal nonprofits. The birth of a modern Middle East has been brought by the people of the region themselves.” –President Donald J. Trump ???????????????? pic.twitter.com/dA9G3WKiuR
— The White House (@WhiteHouse) May 14, 2025
ขณะเดียวกัน ในการเยือนครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของทรัมป์ ในฐานะผู้นำสหรัฐสมัยที่สอง ทรัมป์เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงระหว่างโบอิ้งกับกาตาร์ แอร์เวย์ส มูลค่าราว 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.65 ล้านล้านบาท) การลงนามกับซาอุดีอาระเบีย ตามกรอบความร่วมมือหลายด้าน ซึ่งมีมูลค่ารวมราว 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19.95 ล้านล้านบาท) รวมถึงข้อตกลงซื้อขายอาวุธเกือบ 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำเนียบขาวประกาศใหญ่โต ว่าเป็นข้อตกลงซื้อขายอาวุธมูลค่าสูงสุด เท่าที่สหรัฐเคยบรรลุร่วมกับประเทศหนึ่งประเทศใด
“We’re setting records on this trip. We're bringing a lot of investment back into the USA. We'll be well over $10 trillion. I want to thank your Highness for helping with that number… It's going to be a great investment for you.” –President Donald J. Trump ???????????????? pic.twitter.com/RliKyqRB7j
— The White House (@WhiteHouse) May 15, 2025
นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 482,183 ล้านบาท) ระหว่างโบอิ้งกับเอทิฮัด แอร์เวย์ส ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของยูเออี และข้อตกลงที่จะเป็นความร่วมมือมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.99 ล้านล้านบาท) กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี
.@POTUS: "The people in this room have helped to commence between the United States and the United Arab Emirates grow $34 billion a year — America's second-highest total in the Middle East." pic.twitter.com/1KaY70XJg5
— Rapid Response 47 (@RapidResponse47) May 16, 2025
ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐและยูเออีลงนามร่วมกัน ในข้อตกลงด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งยูเออีจะลงทุนในศูนย์ข้อมูลที่อเมริกา พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะ “ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบด้านความมั่นคงแห่งชาติให้สอดคล้องกับของสหรัฐมากยิ่งขึ้น” ซึ่งรวมถึงมาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการเบี่ยงเบนของเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐ
แม้การเยือนครั้งนี้ จะนำมาซึ่ง “ผลประโยชน์มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” แต่ภารกิจของทรัมป์ในตะวันออกกลางครั้งนี้ สร้างกระแสวิจารณ์หลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการแทบไม่มีการหารือเรื่องสงครามในฉนวนกาซา และการที่รัฐบาลกาตาร์เตรียมมอบเครื่องบินเจ็ตสุดหรู “เพื่อเป็นของขวัญ” ให้แก่ผู้นำสหรัฐ ที่มีการตั้งคำถามด้วยว่า เข้าข่ายเป็นการรับสินบนหรือไม่.
เครดิตภาพ : AFP