ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ภูมิอากาศ และวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ‘อาคาร’ ซึ่งเคยเป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้งาน กำลังถูกทบทวนบทบาทใหม่ในฐานะเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการลดต้นทุน สร้างสุขภาวะ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

‘เจมส์ ดูอัน’ ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด คือหนึ่งในผู้ที่มอง ‘อาคาร’ ผ่านเลนส์ของความยั่งยืนอย่างลึกซึ้ง โดยไม่ได้มองอาคารเป็นเพียงโครงสร้างของวัสดุ แต่เป็นระบบนิเวศที่ต้องสามารถถ่ายเทอากาศ ประหยัดพลังงาน และอยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมได้อย่างสอดคล้อง
“เวลาคนพูดถึง Green Building บ่อยครั้งจะนึกถึงแค่ต้นไม้กับแผงโซลาร์เซลล์ แต่จริงๆ แล้วมันลึกกว่านั้นมาก อาคารต้องเริ่มจากการคิดเรื่องพลังงานอย่างจริงจังตั้งแต่รากฐาน”
ด้วยแนวคิดนี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้เกิด ‘Coral Total Solution’ โซลูชันแบบครบวงจรด้านพลังงานและคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์กว่า 21 ปีในแวดวงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผสานกับการศึกษา ทดลอง และการปฏิบัติจริงในหลากหลายพื้นที่ เพื่อหาคำตอบว่า “จะสร้างอาคารที่ประหยัดพลังงานในสภาพอากาศร้อนชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร?”
ประเด็นสำคัญที่เจมส์เน้นย้ำเสมอคือเรื่องของ EUI (Energy Use Intensity) หรืออัตราการใช้พลังงานของอาคาร ซึ่งถือเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญต่อผลกระทบของอาคารที่มีต่อโลก โดยได้ยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนว่า “ตึกทั่วไปในกรุงเทพฯ ใช้พลังงานเฉลี่ยราว 280 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตรต่อปี แต่ที่สุขุมวิท 39 ของเราใช้แค่ 68 กิโลวัตต์ และยังไม่รวมพลังงานจากโซลาร์อีกด้วย”
เบื้องหลังความแตกต่างของตัวเลขดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากเพียงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ แต่เป็นผลลัพธ์จากการออกแบบที่เข้าใจบริบทของพื้นที่อย่างแท้จริง เจมส์ไม่เชื่อในสูตรสำเร็จที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานที่ เขามองว่าความยั่งยืนต้องเริ่มต้นจากการปรับโซลูชันให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ ดังที่เขากล่าวว่า “เราจะไม่ใช้แบบเดียวกันซ้ำในทุกโครงการ ตึกที่ออกแบบในเชียงใหม่ ต้องรับลมเย็นกับแดดอีกแบบ ส่วนตึกในกรุงเทพฯ ต้องสู้ความชื้นกับรังสีความร้อน ทุกอย่างต้อง ปรับไปตามบริบทแต่ละพื้นที่ ไม่อย่างนั้นต่อให้ใช้วัสดุดีแค่ไหน ก็ไม่ประหยัดจริง”
ความสำเร็จของคอรัล ไลฟ์ ยังปรากฏชัดในระดับนโยบายการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการจัดการ ‘ความร้อน’ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออาคารในเขตร้อนชื้น โดยเจมส์อธิบายว่า “เราควบคุมไม่ให้ความร้อนเข้ามาได้มากถึง 70% ด้วยโครงสร้างอาคาร ส่วนความร้อนภายในก็ออกแบบให้เกิดน้อยที่สุด มันทำให้อาคารใช้เครื่องปรับอากาศขนาดเล็กกว่าปกติหลายเท่า นั่นแหละหัวใจของการประหยัดจริงๆ”
‘Coral Total Solution’ ได้บูรณาการความรู้จากหลากหลายศาสตร์ ทั้งฟิสิกส์ ชีววิทยา วิศวกรรมอาคาร และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างแนวทางการพัฒนาอาคารที่สามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่า 70% พร้อมทั้งควบคุมคุณภาพอากาศภายในอาคารให้เป็นไปตามเกณฑ์ Wellness ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ซึ่งครอบคลุม 5 ด้านหลัก ได้แก่ การปราศจาก PM2.5, ระดับ VOCs ที่ต่ำ, การควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ, ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ไม่เกิน 1,000 PPM และความรู้สึกสบายของผู้ใช้งานอาคาร
“เรื่องพวกนี้ ถ้าคิดตอนสร้างเสร็จแล้ว มันจะแก้ยากมาก การวางแผนเรื่องสิ่งแวดล้อมกับพลังงาน ต้องคิดให้ครบตั้งแต่วันแรก มันคือเรื่องของระบบ ไม่ใช่แฟชั่น” เจมส์ ย้ำ
ด้วยแนวคิดนี้เอง Coral Total Solution จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบอาคารที่ตอบสนองต่อความต้องการทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โครงการของคอรัล ไลฟ์ ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น การได้รับการรับรอง PHI Certification สำหรับอาคารประหยัดพลังงาน ซึ่งถือเป็นบริษัทแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับมาตรฐานนี้ รวมถึงการได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการใช้พลังงานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล The Best Innovative Startup จาก Private Financing Advisory Network (PFAN) และ Sustainable Energy Association of Singapore (SEAS) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาคารสีเขียวที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
ที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำของไทยหลากหลายภาคส่วน ทั้งศูนย์การค้า โรงพยาบาล โรงเรียน และสำนักงานใหญ่ของบริษัทมหาชน และกำลังเตรียมขยายขอบเขตการดำเนินงานไปยังต่างประเทศ เช่น โครงการใหม่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างในไต้หวัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านความยั่งยืนของภูมิภาคที่มีประชากรกว่า 4,000 ล้านคน
สำหรับเจมส์ อาคารสีเขียวไม่ใช่เพียงความใฝ่ฝันหรือภาพลักษณ์ที่สวยงาม หากแต่เป็น ‘ทางเลือกที่จับต้องได้ ใช้งานได้จริง และสร้างผลลัพธ์ชัดเจนทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ’ และเขายังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “สุดท้ายแล้ว อาคารที่ดีควรจะทำให้คนอยู่แล้วสบาย ใช้พลังงานน้อย และรู้สึกว่าโลกใบนี้ยังหายใจได้ นั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำมาตลอด”
เพื่อส่งเสริมแนวคิดดังกล่าวให้ขยายไปสู่ระดับสังคม คอรัล ไลฟ์ เตรียมเปิดตัวหลักสูตร ESG REAL ร่วมกับพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จริง แทนที่จะเป็นเพียงทฤษฎี เพื่อสร้างผู้นำที่มีความสามารถในการวางกลยุทธ์ด้าน ESG ที่เป็นรูปธรรมและสามารถวัดผลได้ โดยเปิดโอกาสให้แก่เจ้าของกิจการ ผู้กำหนดนโยบาย นักออกแบบ ที่ปรึกษา และผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์อาคาร
ทั้งนี้ ความยั่งยืนไม่ใช่ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงเฉพาะในเวทีระดับโลกเท่านั้น แต่ต้องเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ภายในองค์กร และเมื่อมีผู้นำที่ลงมือปฏิบัติจริง การเปลี่ยนแปลงในระดับชุมชนและระบบนิเวศทางธุรกิจจึงจะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง