เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 พ.ค. 68 ที่ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ว่า วันนี้ได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ สตง., ปปง., ป.ป.ท., ป.ป.ช., สำนักพระพุทธศาสนา และตัวแทนเจ้าหน้าที่ธนาคาร 4 แห่ง เข้าตรวจสอบบัญชีของวัดไร่ขิง และบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส รวม 49 บัญชี ซึ่งในจำนวนบัญชีนี้ ทาง บก.ปปป. เคยตรวจสอบมาแล้วกว่า 20 บัญชี เพิ่มมาใหม่อีก 20 กว่าบัญชี ทาง ปปง. และ สตง. รับหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
อย่างไรก็ตาม บัญชีของวัดมีรายได้จากเงินบริจาค จัดงานบุญ ขายอาหารปลา ตู้บริจาค ให้เช่าที่วัด และจำหน่ายวัตถุมงคล เบื้องต้นพบยอดเหลือในบัญชีหลักล้านบาท ส่วนบัญชีของอดีตเจ้าอาวาสมี 4 บัญชี ยอดเงินเหลือหลักล้าน ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 4 แห่ง สรุปยอดรวมมาอีกที
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดกว่า 10 คน ทั้งพระสงฆ์ ไวยาวัจกร กรรมการวัด และชาวบ้าน มาสอบถามและให้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินแต่ละยอดย้อนหลังไป 5 ปี ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องรอสรุปว่าหลักฐานสาวไปถึงใครบ้าง ขณะที่กรณีมาเฟียวัดไร่ขิง ทุกคนก็รู้แล้วว่าใครที่มีอำนาจในวัด ช่วงที่ อดีตเจ้าคุณแย้ม เป็นเจ้าอาวาสอยู่ เราเอาหลักฐานนำ ไม่ได้เอาความคิดนำ ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกมิติเพื่อให้วัดไร่ขิง เดินต่อหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม อยากบอกกับพุทธศาสนิกชนว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง ที่ลอยมากับน้ำกับอดีตเจ้าอาวาสเป็นคนละคน อย่าไปเหมารวม เพราะวัดต้องเดินหน้าต่อ.