เรื่องสอบฮั้ว สว. ตอนนี้กำลังเดือด เพราะในการประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 30 พ.ค. มีวาระพิจารณาสำคัญคือ การตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ประกอบด้วย กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด
ในส่วนของ กกต. 1 คน เสนอชื่อให้ตรวจสอบประวัตินายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน เสนอชื่อให้ตรวจสอบประวัติ ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ส่วนตำแหน่งอัยการสูงสุด 1 คน เสนอชื่อให้ตรวจสอบประวัติ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด
นอกจากนี้ยังมีวาระให้ความเห็นชอบบุคคลได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา 2. นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ 3.นายประจวบ ตันตินนท์ อดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน
สว.นันทนา นันทวโรภาส มุ่งสกัดไม่ให้ สว.ได้ทำหน้าที่นี้ เพราะ สว.จำนวนมาก 138 คนกำลังถูกข้อครหาเรื่องได้ตำแหน่งมาโดยมิชอบ โดยต้องล่าชื่อ สว.20 คน ยื่นต่อประธานวุฒิสภาและยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพ สว. แต่จะมีปัญหาที่ “บิ๊กหมง” มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นผู้ถูกสอบในคดีฮั้ว สว.ด้วย
“การจะขอให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง จึงต้องยึดรัฐธรรมนูญมาตรา 82 (การเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ) ประกอบกับมาตรา 113 (สว.ไม่อยู่ใต้อาณัติองค์กรหรือพรรคการเมืองใด) และ 114 เพื่อถอดถอน สว. ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด และร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้เร่งด่วนที่สุดเนื่องจากวุฒิสภาบรรจุวาระการประชุมสมัยวิสามัญวันที่ 30 พ.ค. เพื่อเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ถือเป็นการลักไก่เร่งด่วนอย่างผิดปกติ อาจขัดแย้งผลประโยชน์อย่างรุนแรง เพราะ สว.เสียงข้างมาก กำลังผู้ถูกกล่าวหาว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ หากปล่อยให้แต่งตั้งองค์กรอิสระนั้นต่างตอบแทนหรือไม่ จะไม่เท่ากับ สว.ตั้งผู้พิพากษามาพิจารณาตัวเองหรือ”
หากศาลมีคำพิพากษาให้ สว.ที่เป็นเสียงข้างมากนั้นมีความผิด จะทำให้ผลแห่งการลงมติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ กลายเป็นมรดกบาป ที่ สว.ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศชาติหรือไม่ ซึ่งก็จะส่งผลต่อสถานะขององค์กรอิสระเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากองค์กรอิสระอยู่ใต้กำกับพรรคการเมือง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะเป็นธรรมหรือไม่
เมื่อถามว่าจะไปถึงการล้มการเลือก สว.ทั้งกระดานหรือไม่ น.ส.นันทนา ถามกลับว่า ด้วยเหตุผลอะไร ถ้าจะล้มทั้งกระดาน เพราะคนอื่นๆ ที่เข้ามาแบบปกติก็มี ที่ไม่ได้อยู่ในข้อกล่าวหาว่าฮั้วกัน แต่ถ้าถึงที่สุด จะต้องล้มกระดานกันด้วยเหตุผลว่า เกี่ยวพันกันไปกันมา ก็ยินดีแต่ขอให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ สว.ก่อน
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร ทนายความ กล่าวว่า ต้องการจำนวน สว. เพียงแค่ 20 คน ที่จะทำการล่ารายชื่อดูเหมือนว่าโทรฯ ไปไม่รับสายบ้าง จึงตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้ สว. กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าอิสระหรือสายสีขาวทั้งหลายให้ร่วมกันลงชื่อ แค่ 20 คนไม่เกินไป หากไม่ได้จริง ตนเองจะไปยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง แต่ก็ไม่หวังอยากไปจุดนั้น หากใครถูก สว. สีน้ำเงินเอาคืน ตนเองและประชาชนพร้อมปกป้อง

ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. นายอลงกต วรกี สว. และพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อประธาน กกต. เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ว่า สว.ที่ถูกเรียกมารับข้อกล่าวหา ถูกละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ โดยการออกหนังสือเชิญไม่ใช่หมายเรียกตาม ป.วิอาญาแจ้งข้อกล่าวหารายละเอียดไม่ชัดเจนไม่เพียงพอที่จะให้การหรือหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาได้ ขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ควรได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
วิธีปิดหนังสือเชิญไม่รักษาความลับของทางราชการ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซอง 2 ชั้น และป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ แต่การปิดหมายที่พักอาศัยของ สว. 6 คนในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบ สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา ทำให้เข้าใจว่าเป็นผู้กระทำผิด ขอให้ กกต.สั่งกรรมการสืบสวนไต่สวนฯ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนกระบวนการที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนที่นัดมาและการสอบสวนมาจากดีเอสไอ และไม่ให้นำสำนวนที่ได้รับจากดีเอสไอมาร่วมด้วย
ให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มีโอกาสได้ตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง การดำเนินการของดีเอสไอตั้งแต่ชั้นสอบสวน มีการเบี่ยงเบนประเด็นการทำงานมายืมมือกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ควรเลือกตั้งคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาร่วม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานอัยการ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาได้

จากกรณี “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. เปิดเผยว่า เห็นเส้นทางการเงินของ “เลขานก” ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยนั้น นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ขอตั้งข้อสังเกตไปยังนางกุสุมาลวตี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างดีเอสไอว่า นางกุสุมาลวตี เอามาจากไหน หรือมีอำนาจหน้าที่ใดในการไปเอาข้อมูลมาจากธนาคาร มีหน่วยงานใดที่จะมีข้อมูลนี้ และสามารถเอาข้อมูลออกมาให้นางกุสุมาลวตีได้หรือไม่ ข้อมูลเส้นทางการเงินของนายไชยชนก สามารถหลุดไปถึงนางกุสุมาลวตีได้อย่างไร เรื่องนี้ทำให้นายไชยชนกได้รับความเสียหายตามมา ข้อมูลจากอำนาจเจริญได้มาจากคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่ แน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องจริง ความปลอดภัยและไม่ละเมิดสิทธิประชาชนคือหัวใจของเรื่องนี้
เลขานก ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยระบุสั้นๆ เพียงว่า “ไม่ให้ราคา น้ำจะท่วมอยู่แล้ว และถ้าไม่ใช่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่ามาถามผม ผมไม่มีเวลาให้” ส่วน “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า มีการเผยแพร่อักษรย่อ พ. ว่าเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. รอดูว่า กกต.จะเชิญเขาไปให้ข้อมูลหรือไม่ รับไม่ได้ที่มีการพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยให้ได้รับความเสียหาย ถ้าแจ้งความคงแจ้งความฟ้องร้องที่สงขลา
“บังซุบ” ศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะดำเนินคดีและดำเนินการทุกอย่างต่อบุคคลใดก็ตามที่ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และมุ่งร้ายทางการเมืองในครั้งนี้
ที่สำนักงาน กกต. นายณฐพร โตประยูร นักร้องเรียนทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 (1) มีการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครอง หรือได้มาซึ่งอำนาจการปกครองไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย และ 92 (2) เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณีอาจเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.
“มีรายชื่อ และรายละเอียดทั้งหมดว่าใครเป็นเจ๊ใหญ่ ใครเป็นผู้ยิ่งใหญ่ รับเงินมาอย่างไร และมีบรรดาหัวหน้าคนในจังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถ้าใครอยากได้ สว.เพิ่มจาก 2 คนก็มีการจ่ายหัวละ 2-7 ล้านบาท ข้อมูลเส้นทางการเงินดีเอสไอมีหมด กลัวอยู่ 2 คนที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนไป คนหนึ่งเป็นพลเอก ส. และอีกคนหนึ่งเป็นนาย ส. ที่เข้ามามีบทบาททางการเมืองตั้งแต่หลังรัฐประหาร” นายณัฐพร กล่าว
ส่วนเรื่องอื่นๆ ภายหลังมีการนำเสนอข่าวและคลิปวิดีโอขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลื่นล้มบันไดอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หลังจากเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์มงคลเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ประเทศชาติและประชาชน โอกาสดาวพระเสาร์ย้ายตามหลักโหราศาสตร์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรฝากแจ้งว่า ลื่นล้มจริง แต่ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างที่เป็นข่าว กลับจากวัดก็มาพักผ่อนตามปกติ เช้ารุ่งขึ้นจึงค่อยไปให้แพทย์ตรวจร่างกายซึ่งผลออกมาปกติดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทหารเก่า ยังแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงด้วย
“ทีมข่าวการเมือง”