เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจตกต่ำ   การแก้ของรัฐบาลเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่ได้ผลเป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้ สส. และผู้สมัคร สส. ในทุกพื้นที่ลงไปให้การช่วยเหลือและรับฟังความเดือดร้อนและปัญหาของ ประชาชนในพื้นที่ พบว่า ขณะนี้ ปัญหาสินค้าเกษตร ราคาตกต่ำที่สุดในประวัติการณ์ ราคาน้ำนมดิบ  น้ำมันปาล์ม เหลือราคากิโลละกรัมละไม่ถึง 4 บาท และมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อย  ราคาข้าวคุณภาพดีและปานกลาง ราคาตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  มะม่วงสุก ราคาซื้อหน้าสวนเหลือ กก.ละ 2บาท  รวมถึงราคาพืชผลเกษตร ตกต่ำมาก แต่ไร้มาตรการช่วยเหลือ  

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เนื่องจากหน่วยงานต่างๆในแต่ละกระทรวงไม่ว่าจะเป็น กระทรวงเกษตร และสหกรณ์  กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานไม่สอดคล้องและไม่เอาปัญหาของประชาชนชนมาเป็นที่ตั้ง ในการขับเคลื่อน ทำให้การระบายสินค้าหรือการส่งออกไปต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนและยุโรปมีปัญหา ส่งผลกระทบต่อราคาพืชผลในประเทศและรายได้ของเกษตรกร เกิดปัญหา และหนี้สินครัวเรือนสูงขึ้นไม่หยุด จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า  คนไทย 25.5 ล้านคน หรือ  1 ใน 3  (คิดเป็น ร้อยละ 38.2)  เป็นหนี้ มูลค่าหนี้เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 539,291 บาท ต่อคน  ขณะที่คนมีหนี้เกินกว่า 1 ล้านบาท  มีจำนวนสูงถึง  ร้อยละ 13.5และมีหนี้เฉลี่ยต่อคนถึง 3.3 บัญชี ซึ่งตัวเลขหนี้ครัวเรือน สูงมากจนน่าเป็นห่วง  ขณะเดียวกัน  การแก้หนี้ครัวเรือนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”ของรัฐบาลก็ไม่ได้รับความนิยม  และไม่สามารถแก้ครัวเรือนได้อย่างแท้จริง

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ความล้มเหลวในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น ตามที่เคยหาเสียงไว้กลับไม่ดำเนินการใดๆไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้คนไทยอยู่ดีกินดีขึ้น GDP ขึ้น ร้อยละ  5 ค่าแรง ขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ  จบปริญญาตรีมาเงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 บาท  ลดราคาน้ำมันและไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญ ของโครงการพัฒนาระบบการขนส่ง อุตสาหกรรมและการค้าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รัฐบาลกลับขึ้นภาษีน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันของประเทศไทยสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ

“นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจเรื่องการเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เงินงบประมาณที่เอาลงเข้าสู่ ระบบ จึงเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ไม่ก่อให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ของไทย แต่อย่างใด  สังเกตได้จากตัวเลขตัวเลขGDP ของประเทศไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน  ทั้ง สิงคโปร์  มาเลเซีย  เวียดนาม  กัมพูชา และ สปป.ลาว  

แต่กลับไปขับเคลื่อนแต่โครงการที่มีเงื่อนงำและประโยชน์แอบแฝง  เช่น โครงการเงินดิจิตัล จีโทเค่น และกาสิโนเสรี   โดยเฉพาะเรื่อง กาสิโนเสรีหรือการพยายามผลักดัน พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรัฐบาล พยายามผลักดันเข้า สู่สภาฯอีกรอบ ในเรื่องนี้พล.อ.ประวิตร  สส.พรรคทุกคน ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนและ ยืนยันกับประชาชนอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยินยอมให้มีการเปิดบ่อนเสรี เพื่อประโยชน์ของคนบางคนหรือกลุ่มบุคคลโดยเด็ดขาด” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

โฆษกพรคพลัวประขารัฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้มี ความห่วงใยน้ำท่วมแม่สาย จว.เชียงราย  ได้เตรียมสั่งการให้นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค เตรียมตรวจเยี่ยม และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย.