เรียกได้ว่าหลายคงยังคงให้ความสนใจถึงกระแสของเรื่องพระเอกไม่ยอมแต่งงานกับนางเอก เพราะมีโลกสองใบ ซึ่งคู่ที่เล็งเป้าคือ “ไผ่ พาทิศ-น้ำตาล พิจักขณา” ซึ่งหลังจากมีประเด็นร้อนดังกล่าว น้ำตาลก็ได้ออกมาให้สัมพันธ์ถึงเรื่องนี้ว่าไม่ใช่คู่ของตน แต่ก็ยังไม่วายโดนดราม่าคอมเมนต์ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงกระทบจิตใจของไผ่และน้ำตาลอีกด้วย ซึ่งล่าสุดในงานบวงสรวงละครเรื่อง “นับ8” น้ำตาลได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่คู่ของตน อีกทั้งเผยความรู้สึกหลังได้อ่านคอมเมนต์ของชาวเน็ตว่า

“สำหรับเรื่องที่ถูกโยงว่าโดนไผ่ พาทิศนอกใจ คือไม่มีอะไร เราเชื่อใจเขาอยู่แล้ว มีคอมเมนต์บอกว่ายังไม่ได้พูดถึงคู่เราเลย ร้อนทำไม มีอันนึงตลกมาก ถ้าไม่มีมูลเขาไม่พูดกันหรอก เราก็ อ๋อ…โอเคๆ ตาลขอยืนยันตรงนี้เลยว่าไม่มีค่ะ ซึ่งการถูกโยงครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหลังๆ พี่ไผ่ไม่ลงรูป แต่ก็งงนะปีนี้น่าจะมีไม่ถึง 10 รูป แต่ส่วนใหญ่ใน 10 รูปนี้เป็นรูปคู่ตาลนะ เข้าใจแหละทุกคนเป็นห่วงเรา
บางคนก็เป็นห่วงเรื่องคบกันมาตั้งนานทำไมยังไม่แต่งงานกันสักที ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ให้เกียรติครอบครัวหรือเปล่า เราแฮปปี้ เรายังสนุกการทำงาน มีโปรเจกต์อยู่ทั้งคู่ การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ แต่งงานกันไปสุดท้ายเข้ากันไม่ได้ก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงานแต่เรารักกันดี ตอนนี้เวลายังไม่ถึงขั้นนั้น เรามีหลายอย่างที่ต้องโฟกัส ตาลเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามถ้าเราแต่งงานกันแล้วเราต้องทุ่มเทให้ชีวิตคู่ให้มากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ยังมีอะไรให้รับผิดชอบอยู่ และไม่ใช่ว่าเราไม่รักกัน

ตาลเคยคุยกับเพื่อนว่า มันมีเรื่องให้น่ากลัวคือเราไม่มีเรื่องทะเลาะกัน มันน่ากลัวไปหรือเปล่า น้ำนิ่ง แต่เป็นการคุยกันขำๆ เราผ่านจุดปรับตัวกันมาแล้ว ก่อนหน้านี้เราอาจจะต่างวัย เราห่างกัน 8-9 ปี ตอนพี่เขาเป็นวัยรุ่นเรายังเด็กอยู่ ตอนนี้พี่เขาเป็นวัยรุ่นตอนปลายเราก็เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ตอนนั้นทัศนคติ เหตุผลยังไม่ค่อยมีเท่ากัน แต่ ณ ตอนนี้เราไม่ทะเลาะกัน จะทะเลาะกันเรื่องกินอะไรดี รีโมทอยู่ไหน แว่นอยู่ไหน แต่ห้อยอยู่ที่เสื้อ แบบนั้น เรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยมี ซึ่งหลังๆ เราเป็นที่ปรึกษาให้กับใครหลายๆ คน ในเรื่องของความรัก บางทีเราเก็บปัญหาของเขามาคิด บางทีเพื่อนถามแกทะเลาะกันบ้างหรือเปล่า ถ้าเรื่องๆ นี้ แกจะทำยังไง เราก็มาคิดว่าทำไมเราไม่ทะเลาะกันเลยนะ แต่ก็ดีแล้วค่ะ เราอยู่กันเป็นทุกอย่าง พี่น้อง ผู้ดูแลก็เป็น
เราผ่านจุดอันตรายมาแล้ว ตอนนี้เรารู้ว่าเขาคิดอะไร เราคิดอะไร เราไม่ติดโทรศัพท์ เราทำงานมาถึงกองโทรบอกวางโทรศัพท์ได้เลย ทำงานเสร็จจะกลับโทรบอก แบตชาร์จมา 100 กลับบ้านไป เหลือ 90-80 เปอร์เซ็นต์ตลอด แล้วเราไม่มีปัญหากันเรื่องนี้ เราไว้ใจกันตลอด รูปนี้ถ่ายสต็อกหรือเปล่า ถ่ายใหม่สิ ชู 2 นิ้วสิ (หัวเราะ) ไม่มีๆ เขาก็ไม่มีอะไรให้เราระแวง เขาก็พาเราไปลำบากมาหมดแล้ว นั่งเรือขึ้นต้นน้ำ เดินขึ้นเขา 14 กิโลเมตรก็ทำมาแล้ว”

น้ำตาล เล่าต่อว่า “ส่วนพี่ไผ่หลังจากที่เห็นคอมเมนต์ว่าไม่ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ให้เกียรติครอบครัว คบกันมานานไม่ยอมขอแต่งงานเสียที เขาก็จึ๊กนะ เขามีความรู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติจริงหรือเปล่า ครอบครัวว่ายังไงบ้าง เห็นเขาแมนๆ อย่างนั้นแต่เขาละเอียดอ่อนเรื่องแบบนี้ เขาห่วงความรู้สึกเรา อย่างข่าวโลก 2 ใบ เขาก็รีบเคลียร์เลยนะ ไม่ใช่เขานะ ทุกอย่างชีวิตเขาหยิบยื่นให้เราเลยโดยที่เราไม่ต้องร้องขอเลย เขาล็อกอินทุกอย่างทิ้งไว้ได้ โทรศัพท์ทิ้งไว้ได้ ทุกสิ่งเลยรู้สึกว่าเราไม่รู้สึกว่าไม่ไว้ใจเขา ทุกทีที่มีปัญหากันไม่เคยมีกังวลเรื่องผู้หญิงเลย หรือเรื่องโลกใบแรก ใบหนึ่ง ใบสอง ไม่มีเลย
เรื่องนี้ตาลก็บอกว่าเราคุยกันแล้ว ตาลว่าอย่าให้ความรู้สึกของคนอื่นมาบั่นทอนเรา ตลอดเวลาที่คบกันมาเราให้เกียรติกันตลอดนี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนไป ตาลโอเค พี่โอเค ครอบครัวของเราโอเค พอแล้ว ซึ่งเรื่องพวกนี้ตาลว่าผู้หญิงมีเซ้นส์นะ มันไม่ใช่แค่เรื่องของตาล บอกเลยตาลก็เป็นนาตาชา (นักสืบ) ในเรื่องของคนอื่นเหมือนกัน และตาลก็ไม่ยอม เรื่องนี้ไม่ยอมแน่นอน มันเป็นความไม่ให้เกียรติกัน ถ้าไม่รักกันแล้วก็แยกย้ายกันดีกว่า อย่าโกหกกันเลย มันไม่มีเหตุผลไหนมาซัปพอร์ตการนอกใจได้คือคนไม่รักกัน ถ้าเป็นตาลคือต้องสืบจนรู้มีคำตอบทุกอย่างให้กับตัวเอง ณ วันที่เราตัดสินใจ ว่าเรามูฟออนเราจะต้องไม่กลับไปอีก ตาลไม่ให้โอกาส ไม่แฟร์กับเรา เรื่องนี้ควรบอกกับแฟนคุณ บอกกับคนที่คุณมีความสัมพันธ์ด้วย อย่าให้ไปรู้จากปากคนอื่น เพราะเขาไม่ผิด คนที่ผิดคือคุณค่ะ”

