เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เวลา 16.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ให้สัมภาษณ์กรณีการพิจารณามติแพทยสภา เกี่ยวกับการลงโทษแพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ว่า ต้องตัดสินใจเรื่องนี้และส่งความเห็นกลับไปยังแพทยสภาทันภายในระยะเวลา 15 วัน เพราะถ้าไม่มีอะไรส่งกลับคืนไปก็ถือว่าไม่ได้สงสัยอะไร คิดว่า วันที่ 28-29 พ.ค. 2568 ต้องจบแล้ว และจะดูความเห็นของคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณา ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาประกอบและฟังเขาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกฎหมายและแพทย์ ให้ข้อความรู้ในส่วนของแพทย์ ถ้าวีโต้ก็ต้องส่งกลับไปยังแพทยสภาให้ทันใน 15 วัน แต่ถ้าไม่วีโต้ ก็ไม่ต้องส่งความเห็นกลับไป   

เมื่อถามว่ามีแนวความเห็นส่วนตัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี ก็ต้องดูจากนักกฎหมาย ซึ่งข้อมูลแต่ละท่านไม่ได้ยาว แต่เราไม่ได้ข้อมูลทั้งหมด มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ต่อเนื่อง แล้วจะให้คิดต่อเนื่องอย่างไร ก็ต้องจินตนาการ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริยธรรมของแพทยสภา ดูแค่เนื้อในไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของผู้ต้องขัง ไม่เกี่ยวกัน ซึ่งดูในเนื้อในแล้วเป็นเรื่องของแพทย์คนหนึ่ง  

เมื่อถามย้ำว่าถึงวันนี้ได้คำตอบในการแสดงความคิดเห็นหรือยัง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีข้อมูลและต้องส่งความเห็นให้ทันก่อนครบกำหนดให้ได้ ส่วนเอกสารข้อมูลที่ขอเพิ่มเติมไป เมื่อไม่ได้มาก็ไม่เป็นไร ก็ต้องทำให้หมดหน้าที่ของเรา ให้ดูดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนใหญ่คาดว่าสภานายกพิเศษจะวีโต้แน่นอน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เหรียญมี 2 ด้าน มีแค่วีโต้กับไม่วีโต้แค่นั้น ไม่มีออกกลาง และไม่มีอะไรหนักใจ งานที่ทำมา 40 ปี ทั้งงานการเมือง กฎหมาย และอื่นๆ ไม่ทำให้รู้สึกหนักใจ ทำไปตามปกติ ตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ถามต่อว่าเท่าที่มีข้อมูลตอนนี้ มองว่ามีส่วนไหนที่ไม่ชัดเจน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี ข้อมูลก็ชัดเจนอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่ามีข้อมูลครบถ้วนที่จะใช้พิจารณาแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราอยากได้ ก็ยังไม่มา แต่แพทยสภาไม่ได้ให้แล้ว ก็ไม่เป็นไร ให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาของแพทยสภานั้น มีคณะกรรมการ 4 ชุด ชุดแรกเป็นชุดรับเรื่องร้องเรียน ชุดที่ 2 อนุกรรมการสอบสวน ให้ความเห็นในระดับหนึ่ง ทำงานอยู่ประมาณ 4 เดือน แล้วส่งไปชุดที่ 3 อนุกรรมการกลั่นกรอง ทำงานระยะสั้นๆ และมีการเปลี่ยนแปลงโทษ แล้วเอาเข้าการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา จากวันที่ 1 เป็นในวันที่ 8 พ.ค. 2568

“ระยะเวลาสั้นๆ โทษถูกเปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่โทษมีเปลี่ยนแปลงไปจากอนุกรรมการสอบสวน ไปถึงอนุกรรมการกลั่นกรอง ไปถึงคณะกรรมการแพทยสภา จึงอยากรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพราะอะไร อย่างไร แต่ไม่ได้ข้อมูล ก็ไม่เป็นไร แต่ที่ขอไปเพราะกลัวว่าไม่ชัดเจน ถ้าได้ก็จะชัดเจน จะสมบูรณ์ ก็ไปคิดว่าเมื่อไม่สมบูรณ์แต่ต้องทำงานต่อ ก็ไปคิดดู เมื่อไม่สมบูรณ์เป็นประโยชน์ของใคร หรือใครอยากจะรู้อะไร จะเพิ่มเติมอะไร หรือไม่อยากให้รู้อะไร ก็คิดดูเอาเอง” นายสมศักดิ์ กล่าว