เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ต่างประเทศ “New York Post” รายงานว่า แม้ว่าเครื่องดื่มหรือน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมโซดาจะมีรสชาติอร่อย แต่ก็มีราคาแพง อีกทั้งมีอันตราย โดยมีแพทย์ออกมาเตือนนานแล้วว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแคลอรี่สูงเป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น ฟันผุ และรอบเอวหนาขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำอัดลม มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการป่วยที่เจ็บปวดอย่างรุนแรง ซึ่งบางครั้งอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไข ซึ่งล่าสุด แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะชาวบราซิล ดร.ทาเลส อันดราเด ออกใสเตือนหลังจากสามารถเอานิ่วในไต 35 ก้อน ออกจากกระเพาะปัสสาวะของชายคนหนึ่งที่ดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อดังวันละ 2 ถึง 3 ลิตร

โดยในวิดีโอ Instagram “drthalesandrade” ที่น่าสะพรึงกลัว เขาได้โชว์ภาพภาชนะที่เต็มไปด้วยหินสีเหลืองขนาดใหญ่ ขณะที่มีคนไข้นอนอยู่บนโต๊ะผ่าตัดด้านหลัง

นิ่วในไตคืออะไร?

นิ่วในไตเป็นวัตถุแข็งที่ก่อตัวขึ้นในไตจากสารต่างๆในปัสสาวะ เช่น แคลเซียม โซเดียม ออกซาเลต และกรดยูริก เกิดไม่สมดุล ตามข้อมูลของมูลนิธิโรคไตแห่งชาติ ซึ่งเมื่อมีอนุภาคเหล่านี้มากเกินไปและมีของเหลวหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ อนุภาคเหล่านี้จะเกาะตัวกันและตกผลึกจนกลายเป็นนิ่ว

เมื่อนิ่วก่อตัวขึ้นแล้ว อาจค้างอยู่ในไตหรือเคลื่อนตัวไปตามทางเดินปัสสาวะ ซึ่งนิ่วขนาดเล็กอาจขับออกมากับปัสสาวะ แต่นิ่วขนาดใหญ่ไม่สามารถออกมาได้ทำให้เกิดติดขัดปัสสาวะไหลย้อนกลับและปวดอย่างรุนแรง ซึ่งการอุดตันดังกล่าวยังทำให้ไตไม่สามารถกรองของเสียได้ แพทย์อาจสั่งยาเพื่อบรรเทาอาการปวด และช่วยให้นิ่วเคลื่อนตัวออกไป หรืออาจแนะนำขั้นตอนในการสลายหรือนำนิ่วออก

นิ่วในไตพบได้บ่อยในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าคน 1 ใน 10 คนจะมีนิ่วในไตอย่างน้อยหนึ่งช่วงในชีวิต ทุกปี นิ่วในไตจะส่งชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งล้านคนไปห้องฉุกเฉิน

อาการของนิ่วในไตมีอะไรบ้าง?

นิ่วในไตอาจมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าวหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ ชายชาวศรีลังกาคนหนึ่งสร้างสถิติโลกกินเนสส์เมื่อไม่นานนี้ด้วยนิ่วที่มีขนาดเท่ากับเกรปฟรุต 1.8 ปอนด์ โดยทั่วไป ยิ่งนิ่วมีขนาดใหญ่ อาการก็จะยิ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น

นิ่วในไตพบได้บ่อยในผู้ชาย แต่สามารถส่งผลต่อทั้งเพศชายและหญิงได้

อาการที่อาจเกิดขึ้นได้
อาการปวดอย่างรุนแรงที่หลังส่วนล่างทั้งสองข้าง
อาการปวดท้องที่ไม่หายสักที
ปัสสาวะเป็นเลือด
คลื่นไส้หรืออาเจียน
มีไข้และหนาวสั่น
ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นหรือขุ่น

ทำไมน้ำอัดลมจึงทำให้เกิดนิ่วในไตได้บ้าง?

“การดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมโซดา โดยเฉพาะโซดาที่มีน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง อาจทำให้ระดับกรดยูริกในร่างกายสูงขึ้น” เคลซี คอสตา นักโภชนาการที่ได้รับการรับรอง กล่าวกับ Eat This, Not That! “ซึ่งอาจทำให้เกิดผลึกในไต ส่งผลให้เกิดนิ่วในไตที่เจ็บปวด”

กรดฟอสฟอริก ซึ่งเป็นส่วนผสมทั่วไปในโซดา โดยเฉพาะน้ำอัดลม ยังทำให้ไตของคุณมีกรดมากขึ้น เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเกิดนิ่ว ยิ่งไปกว่านั้น คาเฟอีนในโซดาหลายชนิดยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้คุณขาดน้ำซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วได้

การศึกษาวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมอย่างน้อย 1 แก้วต่อวันมีความเสี่ยงเป็นนิ่วในไตเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มน้อยกว่า 1 แก้วต่อสัปดาห์ หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น พั้นช์ผลไม้เทียมก็เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายสำหรับชาวอเมริกัน 63% ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทุกวัน ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)

ข่าวดีก็คือ การลดปริมาณการดื่มจะช่วยได้ ในการศึกษาวิจัยครั้งหนึ่ง ผู้ป่วยนิ่วในไตที่เลิกดื่มน้ำอัดลม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีกรดฟอสฟอริก มีโอกาสเกิดนิ่วในไตลดลง 15%

“การรักษาระดับน้ำในร่างกายให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำอัดลมในปริมาณมากเกินไปถือเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกัน” ดร. อันดราเด กล่าวในวิดีโอของเขา และว่า “สุขภาพไตเริ่มต้นจากการเลือกเครื่องดื่มที่เราดื่มในแต่ละวัน”

ปัจจัยอื่นใดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของคุณ?

นิ่วในไตส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ชายในช่วงวัย 30 และ 40 ปี แต่โรคนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ในทุกวัย รวมถึงเด็กด้วย ตามข้อมูลของคลินิกคลีฟแลนด์ การขาดน้ำจะเพิ่มโอกาสเกิดนิ่ว และการรับประทานโปรตีน เกลือ น้ำตาล หรืออาหารเสริมวิตามินซีในปริมาณมากก็เพิ่มโอกาสเกิดนิ่วเช่นกัน

การผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นเดียวกับยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดกรดที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ และยาต้านอาการชัก

ข้อมูล “New York Post” – Instagram “drthalesandrade”