สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (เอซีอีเอ) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของเทสลาในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 5,475 คัน ซึ่งลดลง 52.6% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ยอดขายของเทสลาร่วงลง 46.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยอยู่ที่ 41,677 คัน

แม้ยอดขายรถอีวีโดยรวมเพิ่มขึ้นในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 27 ประเทศ แต่ส่วนแบ่งการตลาดของเทสลา กลับลดลงอย่างมาก โดยจากเดิมที่เคยเป็นผู้นำที่โดดเด่นในยอดขายรถอีวี เทสลาถูกบริษัทคู่แข่ง 10 แห่ง แซงหน้าเมื่อเดือนที่แล้ว เช่น โฟล์คสวาเกน บีเอ็มดับเบิลยู เรโนลต์ และบีวายดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน

อนึ่ง เทสลาประกาศเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ยอดขายทั่วโลกของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 13% ส่งผลให้มัสก์เผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น แม้เทสลากล่าวโทษส่วนหนึ่ง ว่าเป็นเพราะ “การผลิตที่ลดลง” ท่ามกลางการอัปเกรดรถยนต์รุ่นมาตรฐาน “โมเดล วาย” ก็ตาม

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มัสก์ก็ประกาศว่า เขาจะลดภาระงานในการช่วยเหลือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลดการใช้จ่ายของรัฐบาลวอชิงตัน และล่าสุด เขากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยอดขายของเทสลา “กำลังไปได้สวย”.

เครดิตภาพ : AFP