จากกรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 05.30 น. โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชา เข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ และเริ่มใช้อาวุธก่อน ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุนั้น อยู่บริเวณ “ช่องบก” ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
-ด่วน! ทหารไทย-กัมพูชา ปะทะเดือดยิงสนั่นชายแดนช่องบกแต่เช้า ล่าสุดเจรจาหยุดยิงแล้ว

สำหรับ “ช่องบก” จ.อุบลราชธานี ไม่ใช่แค่ชื่อสถานที่ แต่เป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และยุทธศาสตร์ ที่เชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างลาวและกัมพูชา จนเป็นที่รู้จักในชื่อ “สามเหลี่ยมมรกต”
-แจง ‘ทหารกัมพูชา’ เข้าใจผิดเริ่มยิงก่อน ฝ่ายไทยจึงต้องใช้อาวุธตอบโต้

ช่องบกคืออะไร?

“ช่องบก” ตั้งอยู่ใน อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็น จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมต่อชายแดน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ด้วยเหตุนี้เองจึงถูกขนานนามว่า “สามเหลี่ยมมรกต” (Emerald Triangle) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์

ในอดีต ช่องบกเคยเป็น “สมรภูมิช่องบก” ที่สำคัญยิ่งในช่วงปี พ.ศ. 2528-2530 ซึ่งเป็นการสู้รบอันดุเดือดระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพเวียดนาม (ที่ขณะนั้นเข้ายึดครองกัมพูชา) การต่อสู้ครั้งนั้น สะท้อนถึงการปกป้องอธิปไตยของชาติไทย แม้จะต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย
-‘แม่ทัพภาค 2’ ลั่นปกป้องอธิปไตยเต็มที่ หากกัมพูชาไม่ถอนกำลัง ไม่ถอย

ช่องบก

ช่องบกมีพื้นที่เท่าไหร่ ครอบคลุมจังหวัดอะไรบ้าง?

พื้นที่ “สามเหลี่ยมมรกต” โดยรวมที่เชื่อมโยง 3 ประเทศนี้ มีขนาดประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร ในส่วนของประเทศไทย จุดหลักของช่องบก อยู่ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยครอบคลุมจังหวัดและแขวง ของประเทศต่างๆ ดังนี้

ประเทศไทย
– จังหวัดอุบลราชธานี (โดยเฉพาะอำเภอน้ำยืน)
– จังหวัดศรีสะเกษ

ประเทศลาว
– แขวงจำปาศักดิ์ (โดยเฉพาะเมืองมูลประโมกข์)
– แขวงสาละวัน

ประเทศกัมพูชา
– จังหวัดพระวิหาร (โดยเฉพาะเมืองจอมกระสานต์)
– จังหวัดอุดรมีชัย
– จังหวัดสตึงเตร็ง

ช่องบก พื้นที่อันตรายบนข้อพิพาท

ปัจจุบัน ช่องบกยังคงเป็น “พื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาทและพื้นที่ทับซ้อน” เรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียด หรือการปะทะกันได้เป็นครั้งคราว โดยมี 3 ปัจจัยหลักคือ

  1. พื้นที่พิพาท ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิในพื้นที่
  2. การเคลื่อนไหวทางทหาร ทั้งสองประเทศยังคงมีการตรึงกำลังทหารเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันอธิปไตย
  3. ความเข้าใจผิด เหตุการณ์ปะทะอาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างเจ้าหน้าที่ภาคสนาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพื้นที่ “ช่องบก” นั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และพื้นที่ใกล้เคียงที่ไม่ได้อยู่ในแนวชายแดนพิพาทโดยตรง “ถือว่าปลอดภัย” และสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่..สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ห้ามเข้า” พื้นที่ที่ประกาศว่าเป็นเขตหวงห้าม หรือเขตอันตรายโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีการวางทุ่นระเบิดเก่า หรือเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของทหาร..