เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 60 ปาก และอยู่ระหว่างการรวบรวมถ้อยคำให้การ โดยพยานดังกล่าวมาจากหลายกลุ่ม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อธิบดี DSI ย้ำว่า พนักงานสอบสวนกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า DSI ยังไม่พิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน เพราะรอผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และ DSI รวม 7 ราย ให้เสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิเสธหนักแน่นว่า “ไม่ได้เป็นเงื่อนไข เพราะเราก็รวบรวมพยานหลักฐานไปอีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน”

ต่อข้อซักถามที่ว่า หากคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) บุคคลนั้นก็จะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่-ฟอกเงิน ในส่วนของคดีอาญา DSI ใช่หรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตอบสั้นๆ ว่า “ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกัน” ก่อนที่จะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความผิดตามมาตรา 77(1) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 นั้น ระบุถึงกรณีผู้ใดกระทำการจัด ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี