สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า คณะตุลาการศาลฎีกาสหรัฐมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง รับรองการดำเนินการโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเพิกถอนสถานะคุ้มครองทางกฎหมาย ของผู้อพยพราว 532,000 คน จากคิวบา เฮติ นิการากัว และเวเนเซุเอลา
คำพิพากษาดังกล่าวของศาลฎีกาซึ่งถือเป็นที่สิ้นสุด และไม่สามารถอุทธรณ์ได้อีก ถือเป็นการกลับคำตัดสิน และยกเลิกความคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลชั้นอุทธรณ์และศาลชั้นต้นประกาศไปก่อนหน้านี้ ที่เป็นการป้องกันไม่ให้รัฐบาลทรัมป์ยุติโครงการ “ทัณฑ์บน” สำหรับผู้อพยพ ที่จัดตั้งขึ้นในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน “ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม” ซึ่งมอบโอกาสให้ผู้อพยพเหล่านี้ อาศัยและทำงานในสหรัฐได้เป็นเวลา 2 ปี
ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ยกย่องและชื่นชมมติของศาลฎีกา ที่เปิดทางให้รัฐบาลสามารถ “จัดการตามกฎหมายกับผู้รุกรานมากกว่า 500,000 คน” แม้องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งรวมตัวกันเรียกร้อง และยื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์ เพื่อไม่ให้มีการยกเลิกโครงการนี้ โดยให้เหตุผลว่า การส่งกลับผู้อพยพเหล่านี้ไปยังประเทศต้นทาง อาจทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มี “ความเสี่ยงร้ายแรง” ทั้งในทางการเมือง ความยากจน และภัยคุกคามซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
