เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 สุดท้าย

การอภิปรายเข้มข้นขึ้น เมื่อนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นวิจารณ์การจัดงบประมาณปี 69 ในหลายประเด็น เช่น ปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ในประเทศห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ปีนี้งบฯ ลงทุน 7 แสนล้านบาท เป็นงบฯ ก่อสร้างประมาณ 475,000 ล้านบาท การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบฯ ก่อสร้างไม่เหมือนอดีต เพราะงบฯ ลงทุน แบงก์เอาไปเกือบร้อยละ 10 จึงขอฝากท่านประธาน ถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยว่า ต้องเข้ามาดู มันเป็นการเอาเปรียบประชาชน นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างต่างๆ มีแรงงานเพียงร้อยละ 15 เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง มันไปสู่ชนชั้นกลางกับข้างบน จึงทำให้เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น เพราะงบฯ ของรัฐที่ผ่านมาหลายสิบปี รัฐบาลชุดไหนก็โครงสร้างงบฯ เหมือนกันหมด กลุ่มทุนก็เอาไปเสียมาก แบงก์ก็เอาไปเสียหมด ไม่มีคำว่า “ขาดทุน” ซึ่งเรื่องนี้ตนว่าต้องมาคิดดูให้ดี แล้วสิ่งที่สำคัญ การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่เฉพาะโครงการก่อสร้างอย่างเดียว มันมีเรื่องการพัฒนาแรงงานด้วย ตนฝากรัฐบาลด้วย ทำให้มันไปถึง

“ผมเองเมื่อก่อนไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย แต่ปัจจุบันนี้ผมเห็นด้วย ฝากท่านประธานถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าต้องแจกครับ เงินมี ใครที่อยู่ข้างบนแจกไม่ได้ลงมา เอาคนอื่นขึ้นไปนั่ง ผมเรียนด้วยความเคารพ พูดอย่างนี้จริงๆ ถ้าไม่มีปัญญาทำให้นายกฯ ได้ ลงมา คนอื่นมีเยอะแยะ ที่เขาทำได้ แล้วเงินมีเยอะครับ ประเทศไทย ตรงไหนที่ติดขัด ก็แก้ซะ ถ้าท่านไม่จัดการเรื่องดิจิทัลให้เรียบร้อย อย่าไปแจกใกล้ๆ เลือกตั้งครับ ผมบอกอย่าว่าแต่หมื่นเลย สองหมื่น ก็แจกได้ ถ้าไม่แจกเขามาแน่ครับ นายกฯ เท้ง” นายชาดา กล่าวทิ้งท้าย.