ความคืบหน้ากรณี นายวรเชษฐ หรือเต้ ตุปะโส อายุ 34 ปี ชาว ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเพื่อนรวม 3 คน บุกยิงนายสมเด็จ อัศวภูมิ อายุ 50 ปี พ่อตา และนางสาวมณีรัตน์ อัศวภูมิ อายุ 25 ปี แฟนสาว เสียชีวิตที่บ้านพักเลขที่ 27 หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังมาง้อขอคืนดี และพาไปอยู่ด้วยแต่ไม่สำเร็จ เพราะถูกนายสมเด็จห้ามไว้ หลังก่อได้หลบหนีไป กระทั่งถูกตำรวจกดดันจนเข้ามอบตัว
ทนกดดันไม่ไหว! เขยโหดยิงเมีย-พ่อตามอบตัว รับหึงหวง-โมโหง้อไม่สำเร็จ
กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จยิงเมีย-พ่อตาเซ่นรักขม ตร.เร่งล่าตัว
ล่าสุด เวลา 11.00 น. วันที่ 31 พ.ค. 68 พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ,พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.หนองกุงศรี โดยมี พ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริ ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.สอบสวน สภ.หนองกุงศรี พร้อมด้วยตำรวจ สภ.หนองกุงศรี รายงานความคืบหน้าของคดี ซึ่งล่าสุดนอกจาก นายวรเชษฐ ผู้ก่อเหตุที่เข้ามอบตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ยังคุมตัวนายจักรกฤษณ์ วรรณชูชัย อายุ 28 ปี และนายดนัย ภูสีน้อย อายุ 36 ปี เพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุไว้ด้วย
โดย พล.ต.ต.ศิรสัณห์ ได้เข้าสอบถาม นายวรเชษฐ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงพ่อตาและภรรยาเสียชีวิตจริง เนื่องจากเกิดความโมโหที่ตนเองพยายามไปตามภรรยากลับมาอยู่ด้วยแล้วถูกพ่อตาห้าม และท้าให้ยิง ตนจึงชักปืนยิงทันที จากนั้นได้หลบหนีไปตั้งหลัก ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปกดดันจึงเข้ามอบตัว

จากนั้น พล.ต.ต.ศิรสัณห์ พร้อมด้วยกำลังตำรวจ สภ.หนองกุงศรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและขอขมาศพผู้เสียชีวิตที่บ้านเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้าน และญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตที่รวมตัวกันติดตามการนำแผนกันจำนวนมาก
ทันทีที่รถตู้ของตำรวจที่พาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กลับไม่ยอมลงรถไปทำแผน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางชาวบ้านที่ต่างพากันตะโกนสาปแช่ง และตะโกนเรียกให้ลงจากรถมาขอขมาศพผู้เสียชีวิต แต่ทั้ง 3 คน ก็ไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวกลับโรงพัก ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทั้ง 3 คน คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนนายวรเชษฐ มือยิงแจ้งเพิ่มอีก 3 ข้อหา ประกอบด้วย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้าน พล.ต.ต.ศิรสัณห์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุยิงพ่อตาและภรรยาเสียชีวิตจริง เนื่องจากเกิดความโมโห พี่พ่อตาห้ามไม่ให้พาตัวลูกสาวไป และท้าให้ยิง โมโหจึงก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายวรเชษฐ ยังพบว่าเคยถูกดำเนินคดีอาวุธปืนมาเมื่อปี 64 ถูกจำคุก 4 เดือน และคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นเมื่อปี 66 แต่ศาลยกฟ้อง
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ ทาง พล.ต.ต.ศิรสัณห์ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกด้วย พร้อมกับกำชับให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งญาติยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ที่ทำงานติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายสำลี อัศวภูมิ อายุ 59 ปี พี่ชายนายสมเด็จ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน จึงเดินทางดูก็เห็นนายวรเชษฐ ยืนทะเลาะกันภรรยากับพ่อตา ก่อนที่จะชักปืนออกมายิงทั้งสองคนแล้วก็หลบหนีไป ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษสูงสุด เพราะพฤติกรรมโหดร้าย
ขณะที่ นางเสาร์ อัศวภูมิ อายุ 57 ปี ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน กล่าวว่า การฆ่าทั้งสองคนนั้น ถือว่ามีจิตใจที่โหดร้าย และใจดำมาก จึงอยากให้ได้รับโทษอย่างสาสม ได้รับโทษประหารชีวิตได้ตายไปตามกันไปเลย.