เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 68 ที่รัฐสภา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด ซึ่งล่าสุด เอ๋-พรทิพย์ สกิดใจ ดาราสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 1 โดยปัญหาเกิดจากฝุ่น PM2.5 ว่า มะเร็งปอดที่เรารู้ชัดคือเกิดจากบุหรี่ แต่จริงๆ แล้วคือสารอะไรก็ได้ที่หายใจเข้าไป แต่ร่างกายต้องการแค่ออกซิเจน ดังนั้นเมื่อฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศที่ไม่ใช่ออกซิเจนก็เข้าไปทำร้ายเนื้อปอด และกระตุ้นเซลล์ต่างๆ ในปอดทำให้อักเสบ วันหนึ่งดีเอ็นเอก็เปลี่ยนเซลล์กลายเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็ง ดังนั้นการป้องด้วยการสวมหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพสูงมากๆ สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ก็มีส่วนช่วยได้ ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนทำได้ดีที่สุดคือป้องกันตนเอง และออกกำลังกายเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
เมื่อถามว่า ภาครัฐควรมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 บ้าง นพ.ทศพร กล่าวว่า รัฐก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการเผา ถ้าห้ามเผาก็ต้องห้ามจริงๆ เพราะถ้าเราหยุดเผาก็ไม่ใช่เราหยุดเพื่อใคร แต่เพื่อทุกคน และคนที่จุดไฟเผาก็ต้องสูดควันเข้าไปด้วย ทำให้มีสิทธิเป็นมะเร็งปอดได้ ดังนั้นเราอาจจะต้องยอมเจ็บ ยอมให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ถ้าคิดในระยะยาวเมื่อคนแข็งแรงขึ้น มะเร็งปอดน้อยลง ค่ารักษาน้อยลง ก็คุ้มค่า
เมื่อถามต่อว่าดูแล้วรัฐบาลแก้ปัญหาในเรื่องนี้น้อยไปหรือไม่ นพ.ทศพร กล่าวว่า ต้องยอมรับตรงๆ ว่าน้อยไปนิดนึง แต่ทุกอย่างก็เกิดจากความร่วมมือของประชาชนด้วย เพราะแม้เราจะห้ามเผาอย่างเด็ดขาดแต่ก็ไม่สามารถไปควบคุมได้ทุกพื้นที่ ป่ากว้างใหญ่คนไปจุดไม้ขีดอันเดียวไฟก็ไหม้ได้แล้ว จึงเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเข้มข้นมากขึ้น
“ผมอยากให้ทหาร แทนที่จะตั้งค่ายอยู่บนพื้นราบก็ไปอยู่ชายป่า คนที่จะเข้าไปเผาเพื่อจะปลูกข้าวโพด หรือหาของป่า ซึ่งมีทางเข้าอยู่แล้ว ทหารก็ไปตั้งค่ายอยู่แถวนั้น ส่วนที่ไปรบกับเขมรก็อีกเรื่องหนึ่งแต่ปกติไม่ค่อยรบกับใคร แทนที่จะไปอยู่แต่ในค่ายก็ไปลาดตระเวน ไปฝึก จะได้ช่วยควบคุมคนที่จะเข้าไปเผาป่า ผมว่าน่าจะเป็นทางออกที่จะแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง” นพ.ทศพร กล่าว.