เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” ซึ่งเคยมีชื่อเสียงจากคดีแตงโม ดาราสาวชื่อดัง ได้รับมอบอำนาจจากมารดา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มาคืนหรือชดใช้คืนแก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อัยการดาวแสดงความกังวลว่าหากดำเนินการล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายและกระบวนการบังคับใช้กฎหมายกับทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
เหิมหนัก! แก๊งคอลหลอกแม่ ‘อัยการดาว’ โอนเงินสูญรวม 7.6 แสนบาท

น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า หนังสือดังกล่าวอ้างถึงคดีอาญาที่ 882/2568 ซึ่ง มารดาตน เป็นผู้กล่าวหา นางอัญชลี กับพวก ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่น และร่วมกันทุจริต หรือโดยหลอกลวงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ของ กก.4 บก.สอท.2 โดยมารดาตนเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ และมีสิทธิได้รับคืนหรือชดใช้ค่าเสียหายจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งมีหลักฐานการทำธุรกรรมชัดเจนที่ได้มอบให้พนักงานสอบสวนครบถ้วนแล้ว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาตรา 49/1
อัยการดาว ย้ำว่า จากข้อเท็จจริงและหลักฐานที่เชื่อถือได้ พบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว 1 ราย รวมถึงกลุ่มบุคคลผู้ร่วมกระทำความผิดอีกหลายคน ได้รับเงินผลประโยชน์จากผู้เสียหาย ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานในการปฏิบัติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กำหนดให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนรีบรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมาคืนหรือชดใช้แก่ผู้เสียหายโดยเร่งด่วนต่อไป

“ตอนนี้ก็เป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้วนับแต่วันที่ตนแจ้งความร้องทุกข์” อัยการดาว กล่าวและว่า จึงมายื่นหนังสือขอให้ ผบช.สอท. ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้รีบรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบหรือไม่ และหากยังไม่มีการรายงานดังกล่าว ขอให้กำชับหัวหน้าพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามระเบียบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิของผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายตามกฎหมาย
นอกจากนี้ อัยการดาว ยังต้องการให้ ผบช.สอท. กำชับและตรวจงานของพนักงานสอบสวน เพื่อให้ส่งข้อมูลทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด ซ่อนเร้น ไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลใด ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางอาญาและการฟอกเงิน โดยเน้นย้ำว่าหากล่าช้าไป อาจเป็นเหตุให้กระทบต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายตามกฎหมายและต่อทางราชการในการใช้บังคับกับเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อัยการดาว ได้รับมอบอำนาจจากมารดาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สอท. เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ Romance Scam ที่หลอกลวงมารดาของเธอ ซึ่งเป็นหญิงชราอายุเกือบ 80 ปี โดยมิจฉาชีพรายนี้ใช้ชื่อว่า “แฮรี่” อ้างว่าเป็นนักธุรกิจชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ใช้คำพูดหว่านล้อมให้สมัคร WhatsApp และสนทนาด้วยถ้อยคำสุภาพจนมารดาหลงเชื่อ จากนั้นก็ใช้กลอุบายต่างๆ อ้างว่าติดปัญหาทางธุรกิจ หรือหลอกให้โอนเงินเพื่อจะได้มีพัสดุส่งของมาให้ แต่ก็อ้างว่าน้ำหนักเกินบ้าง ติดเงื่อนไขอื่นๆ จนมารดาหลงกลโอนเงินในบัญชีในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 วัน เป็นจำนวนหลายสิบครั้ง จนหมดเงินไปถึง 7.6 แสนบาท.