สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์จากเวลส์ ฟาร์โก ประเมินว่า บรรดาโรงงานในสหรัฐ เผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานราว 500,000 อัตรา และคำนวณว่า หากต้องการให้สัดส่วนการจ้างงานทางการผลิตกลับสู่จุดสูงสุดเหมือนในทศวรรษ 1970 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดถึงนั้น ต้องเปิดโรงงานใหม่และจ้างงาน 22 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีคนว่างงาน 7.2 ล้านคน


อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง นั่นคือไม่มีโรงทอผ้าในสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าที่ต้องการ และยังขาดแคลนกลุ่มผู้จัดหาซิปและกระดุมรายใหญ่มาป้อนโรงงานผลิต โดยราว 97% ของเสื้อผ้าและรองเท้าที่ชาวอเมริกันซื้อในปัจจุบัน มาจาการนำเข้าเพราะต้นทุนถูกกว่า


ทรัมป์จุดชนวนสงครามการค้าโลกด้วยการเดิมพันว่าการจัดเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าจากประเทศอื่น ๆ จะช่วยดึงดูดตำแหน่งงานและโรงงานกลับสู่สหรัฐฯ อย่างคึกคัก แต่กลับกลายเป็นการเปิดเผยให้เห็นความยากลำบากในการลดระยะทางอันห่างไกล รวมถึงมิติทางภูมิศาสตร์และโลจิสติกส์ ระหว่างจุดที่ผลิตสินค้ากับจุดที่ลูกค้าซื้อ.

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : AFP