เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. สื่อต่างประเทศรายงานข่าวที่น่าตกใจและเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครอง เกี่ยวกับกรณีที่ เด็กหญิงวัย 6 ขวบชาวจีนมีอาการปวดบริเวณช่องคลอด และตรวจพบสิ่งแปลกปลอมภายใน

เรื่องราวเกิดขึ้นกับเด็กหญิงชื่อ ไป๋ (Bei) วัย 6 ขวบ ที่เข้ารับการรักษาที่แผนกนรีเวชของโรงพยาบาลสุขภาพแม่และเด็กในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน พ่อแม่ของเด็กหญิงเล่าว่าลูกสาวมีอาการปวดช่องคลอดมาหลายวัน บางครั้งมีเลือดออกปนออกมาด้วย จึงรีบพามาพบแพทย์

จากการตรวจ แพทย์ถึงกับประหลาดใจเมื่อพบสิ่งแปลกปลอมอยู่ในช่องคลอดของเด็กหญิง ทำให้พ่อแม่ของไป๋รู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าเหตุใดเด็กเล็กเช่นนี้จึงมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายได้

แพทย์หญิงจง เซียวจวน (Zhong Xiaojuan) รองหัวหน้าแผนก ให้คำอธิบายแก่พ่อแม่ว่า “แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า ‘สิ่งแปลกปลอม’ คืออะไร แต่การที่เด็กๆ เกิดความอยากรู้อยากเห็นและนำสิ่งของเล็กๆ เข้าไปในช่องคลอดนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เราจะทราบได้ก็ต่อเมื่อได้ทำการผ่าตัดนำมันออกมา”

หลังจากการวางยาสลบเด็กหญิง แพทย์หญิงจง เซียวจวน ได้ทำการผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมออกจากช่องคลอดของเด็กหญิงได้อย่างปลอดภัย และสิ่งที่พบก็คือ แหวน

ประสบการณ์ของไป๋สร้างความกังวลอย่างมากให้กับพ่อแม่และผู้ปกครองอีกจำนวนมาก เพราะถึงแม้ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กจะเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือต้อง ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เด็กๆ เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและการบาดเจ็บที่ไม่จำเป็น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานกรณีก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน ที่เด็กหญิงวัย 5 ขวบ (ไม่เปิดเผยชื่อ) มีอาการปวดขณะปัสสาวะ ตกขาวผิดปกติ และมีกลิ่นเหม็น จนแม่สงสัยว่าอาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่เมื่อไปตรวจ แพทย์กลับพบว่าสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอดคือ ชอล์กชิ้นเล็กๆ

แพทย์ยังเปิดเผยว่า ทุกปีโรงพยาบาลจะต้องเจอเคสเด็กที่มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในอวัยวะเพศ โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยอนุบาล

ทำไมเด็กถึงยัดสิ่งของเข้าสู่อวัยวะเพศ?

ความอยากรู้อยากเห็นทางเพศที่เริ่มก่อตัว: เด็กวัย 5-6 ขวบเริ่มมีการรับรู้เรื่องเพศที่คลุมเครือ อาจเริ่มต้นจากการสัมผัสอวัยวะเพศของตนเองโดยไม่รู้ตัว และนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การถูไถ หรือยัดสิ่งของเข้าไปในอวัยวะเพศเพื่อความรู้สึกแปลกใหม่

การเล่นกับเพื่อน: บางครั้งเด็กในวัยเดียวกันอาจเล่นกันและเกิดความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอวัยวะที่มีช่องเปิดในร่างกายเพื่อน ทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องได้

พ่อแม่จะป้องกันอุบัติเหตุในระยะนี้ของลูกได้อย่างไร?

เปลี่ยนความสนใจ: เมื่อเห็นพฤติกรรมการสัมผัสอวัยวะเพศของเด็ก พ่อแม่ควรเปลี่ยนความสนใจของเด็กไปทำกิจกรรมอื่น แทนที่จะตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยตรง เพราะอาจทำให้เด็กรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งผิดศีลธรรมหรือน่าละอาย ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเด็ก

ให้ความรู้ผ่านสื่อ: ให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศผ่านหนังสือหรือวิดีโอ เหมือนกับการเรียนรู้อวัยวะอื่นๆ เช่น ตา หู จมูก ปาก เพื่อขจัดความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งพ่อแม่ปกปิดสิ่งใด เด็กก็จะยิ่งอยากรู้อยากเห็นสิ่งนั้นมากขึ้น

บอกตรงๆ: บอกเด็กอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่ควรนำสิ่งใดๆ เข้าไปในอวัยวะสืบพันธุ์ เพราะพฤติกรรมนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้เกิดการติดเชื้อได้

ให้สุขศึกษาทางเพศ: สอนเด็กเกี่ยวกับหน้าที่ของอวัยวะสืบพันธุ์ และให้ความรู้ว่าต้องปกป้องอวัยวะเหล่านั้นตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่จะสามารถมีลูกที่แข็งแรงในอนาคตเมื่อเติบโตขึ้น

ที่มา https://phunuphapluat.nguoiduatin.vn