เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. ได้นำกำลังตำรวจ 191 บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวเวียดนาม 27 ราย ที่แอบตั้งฐานปฏิบัติการในหมู่บ้านหรูย่านชานเมือง ย่านหนองจอก กรุงเทพฯ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมาก การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบกลุ่มชาวต่างชาติรวมตัวกันอย่างน่าสงสัยในพื้นที่ ทำให้ตำรวจสายตรวจ 191 ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวนจนพบพฤติกรรมผิดปกติ

จากการสืบสวนและสอบปากคำ พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาชาวเวียดนามเหล่านี้ เดินทางมาจากเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม เข้ามาในประเทศไทย ช่วงเดือนตุลาคม 2567 โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เพียง 60 วัน ส่วนใหญ่เดินทางเข้าผ่านด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ก่อนที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศไทย รูปแบบการหลอกลวงคือ Romance Scam โดยจะสร้างโปรไฟล์ปลอมโดยใช้รูปภาพบุคคลหน้าตาดี มีฐานะร่ำรวย เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและตกหลุมรัก ก่อนจะใช้คำหวานหว่านล้อมให้โอนเงินในภารกิจต่างๆ ที่วางไว้ อาทิ อ้างว่ามีหนี้สินที่ต้องชำระ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินช่วยเหลือ โดยใช้แอปพลิเคชัน “Zalo” ซึ่งเป็นแชตยอดนิยมในประเทศเวียดนาม เป็นช่องทางหลัก

ในการบุกทลายครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลางสำคัญได้จำนวนมาก อาทิ โทรศัพท์มือถือ 116 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 45 เครื่อง และยาเสพติด ประเภทเคตามีน 5 กรัม นอกจากนี้ ยังพบว่าคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง มีผู้ต้องหานั่งประจำและมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำงานตลอด 27 เครื่อง จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน แต่ละเครื่องสามารถหลอกลวงเงินได้ประมาณ 1,200 ล้านดองต่อเดือน รวมทั้งหมด 27 เครื่อง สามารถหลอกลวงได้ถึง 36,000 ล้านดองต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมเป็นเงินไทยสูงถึง 39 ล้านบาท

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เช่าบ้านทั้ง 2 หลัง ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ในราคาหลังละ 30,000-40,000 บาทต่อเดือน และเริ่มเข้ามาทำงานจริงจังในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ต้องหาแต่ละคนมีรายได้ประจำอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน และหากสามารถหลอกเงินได้สำเร็จ จะได้รับเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแบ่งหน้าที่กันทำงานภายในแก๊งอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเชฟทำอาหาร, ช่างไฟ หรือช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ ขยายผล เพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเช่าบ้าน ผู้จัดหาคน หรือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติชุดนี้ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และเพื่อเป็นการป้องปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่กำลังแพร่ระบาด สร้างความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง