สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์กรสิ่งแวดล้อม “กรีนพีซ” ในอินโดนีเซีย เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบนเกาะ 3 แห่ง ซึ่งเกิดจากโครงการขุดนิกเกิล โดยหนึ่งในนั้นมียอดเข้าชมผ่านอินสตาแกรมมากกว่า 15 ล้านครั้ง

หลังจากนั้น นายปราเซตโย ฮาดี รมต.ประจำสำนักเลขาธิการรัฐบาลอินโดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ตัดสินใจเพิกถอนใบอนุญาตธุรกิจเหมืองแร่ของบริษัท 4 แห่ง ในราชาอัมพัต

กรีนพีซระบุในแถลงการณ์ว่า การขุดแร่นิกเกิลบนเกาะแกก คาเว และมานูราน ส่งผลให้ป่าไม้และพืชพรรณกว่า 500 เฮกตาร์ หรือราว 5 ล้านตารางเมตร ถูกทำลาย รวมถึงแนวปะการังและสัตว์ทะเลยังถูกคุกคามจากการดำเนินการดังกล่าว ขณะที่บาห์ลิลปฏิเสธว่า สิ่งแวดล้อมโดยรอบยังปลอดภัย พร้อมเตือนให้ระมัดระวังในการแยกแยะข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ บริษัทซึ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาต ได้แก่ พีที อนุเกราห์ เซอร์ยา ปราตามา พีที นูรัม พีที กาเว เซจาห์เทรา ไมน์นิง และพีที มูเรีย เรย์มอนด์ เปอร์กาซา ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงาน เกือบทั้งหมดได้รับใบอนุญาตมาตั้งแต่ปี 2556 ด้านพีที นูรัม เพิ่งได้รับใบอนุญาตในปีนี้ และยังไม่ได้เริ่มดำเนินกิจการ

ขณะเดียวกัน พีที แกก นิกเกิล ซึ่งได้รับใบอนุญาต เมื่อปี 2560 จะยังสามารถดำเนินการบนเกาะต่อไปได้ แต่จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด

กรีนพีซระบุว่า เกาะทั้ง 3 จัดอยู่ในประเภทเกาะขนาดเล็ก ที่ไม่ควรทำเหมืองตามกฎหมายของอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี การตัดสินใจดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่รัฐบาลต้องทำให้แน่ใจว่า พวกเขาจะหยุดการกระทำดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลสามารถออกใบอนุญาตใหม่ในภายหลัง หรือบริษัทสามารถยื่นอุทธรณ์ในศาลได้.

เครดิตภาพ : AFP