เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลแขวงกลางกรุงโซลมีคำสั่งอนุมัติการอายัดทรัพย์ชั่วคราวต่อทรัพย์สินของ คิมเซอึย หัวหน้าช่องยูทูบ “Garo Sero Institute” หรือ Gaseyeon หลังจากต้นสังกัดของนักแสดงชื่อดัง คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเป็นเงินรวมกว่า 12,000 ล้านวอน (ราว 8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
คำสั่งอายัดดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยศาลได้สั่งอายัดอพาร์ตเมนต์ 2 แห่ง ได้แก่
ห้องชุดขนาด 120.27 ตารางเมตร ในเขตซอชโช
ห้องชุดขนาด 208.65 ตารางเมตร ในย่านอับกูจอง เขตคังนัม ซึ่งคิมเซอึยถือครองร่วมกับน้องสาวในสัดส่วนคนละครึ่ง
การอายัดในครั้งนี้มีมูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านวอน หรือประมาณ 2,000 ล้านวอนต่อทรัพย์สินแต่ละรายการ โดยเน้นอายัดในส่วนที่คิมเซอึยถือครอง
คดีหมิ่นจาก “ข้อมูลเท็จ–เสียงปลอม”
คดีนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อ คิมเซอึย ร่วมกับครอบครัวของ คิมแซรน นักแสดงหญิงผู้ล่วงลับ ออกมากล่าวอ้างว่า คิมซูฮยอนมีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับคิมแซรนในปี 2015 ขณะที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งคิมซูฮยอนปฏิเสธทันที พร้อมยืนยันว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นในช่วงกลางปี 2019 หลังจากเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว

ต่อมา คิมเซอึยยังได้จัดแถลงข่าวในเดือนพฤษภาคม โดยอ้างว่ามีไฟล์เสียงซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ดังกล่าวจาก “แหล่งข่าวนิรนาม” อย่างไรก็ตาม ภายหลังพบว่าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงปลอมที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI (Deepfake) ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและนำมาสู่การดำเนินคดีทางกฎหมาย
ศาลเห็นว่าหลักฐานฝ่ายนักแสดง “น่าเชื่อถือ”
โนจงออน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ให้ความเห็นว่า ศาลออกคำสั่งอายัดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนในเบื้องต้นของฝ่ายคิมเซอึย สะท้อนว่า “ศาลเห็นว่าคดีมีน้ำหนักพอสมควร และมีการระบุชัดเจนว่าใครเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลหมิ่นประมาท พร้อมระบุความเสียหายเป็นรูปธรรม”
คาดว่าฝ่ายนักแสดงและต้นสังกัดได้นำหลักฐานจำนวนมากมายื่นต่อศาล เช่น เอกสารปฏิเสธความสัมพันธ์ในช่วงที่อีกฝ่ายยังไม่บรรลุนิติภาวะ และเอกสารแสดงความเสียหายด้านชื่อเสียงและรายได้จากคำกล่าวอ้างเท็จ
อุปสรรคในการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
แม้ศาลจะสั่งอายัดทรัพย์ได้ แต่แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า อพาร์ตเมนต์ทั้งสองแห่งได้ถูกนำไปเป็นหลักประกันเงินกู้ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ต้นสังกัดของคิมซูฮยอนจะไม่ได้รับการชดใช้เต็มจำนวน แม้จะชนะคดีในที่สุด
สะเทือนวงการบันเทิง–ผลสะท้อนการใช้เทคโนโลยีผิดทาง
คดีนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมเกาหลีใต้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทด้วยข้อมูลเท็จและเทคโนโลยีเสียงปลอม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชื่อเสียงของบุคคลในวงการบันเทิง โดยเฉพาะในยุคที่ “ข่าวลือ” กระจายรวดเร็วบนโลกออนไลน์
ต้นสังกัดของคิมซูฮยอนยืนยันว่า จะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมทางกฎหมายจนถึงที่สุด เพื่อปกป้องศิลปินและยับยั้งการใช้ข้อมูลบิดเบือนอย่างไร้ความรับผิดชอบในอนาคต