บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสานต่อโครงการ ‘วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ’ ประจำปี 2568 จัดกิจกรรม ‘ค่าย มิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ’ รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน ณ จังหวัดชลบุรี โดยมีเยาวชนอายุ 10-12 ปี และครูรวมกว่า 500 คน จาก 30 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรีและระยอง เข้าร่วมเรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในรูปแบบห้องเรียนธรรมชาติ

‘โอเมอร์ มาลิค’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์ทรัพยากรน้ำของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และมลภาวะ จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันปกป้องน้ำซึ่งเป็นทรัพยากรพื้นฐานของชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต โครงการ ‘เรารักษ์น้ำ’ มีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังความรู้และจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์น้ำ โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา มีเยาวชน 8,115 คน และครู 270 คน จาก 30 โรงเรียนในชลบุรีและระยองเข้าร่วม และได้ต่อยอดเป็นโครงการอนุรักษ์น้ำในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ซันโทรี่ยังตั้งเป้าขยายผลโครงการด้านการให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์น้ำแก่เยาวชนทั่วโลกให้ครบ 5 ล้านคนภายในปี 2030 พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติผ่านการประชุม Mizuiku Global Summit ครั้งที่ 2 ณ ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีตัวแทนจาก 9 ประเทศที่ร่วมดำเนินโครงการ ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย ฝรั่งเศส จีน สเปน อังกฤษ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

ด้าน ‘ทานุจ ชาดา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการดังกล่าวสะท้อนค่านิยมของกลุ่มซันโทรี่ในการเติบโตอย่างยั่งยืนและตอบแทนสังคม ผ่านการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงในค่ายมิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ รุ่นที่ 2 ก่อนนำความรู้กลับไปจัดทำแผนอนุรักษ์น้ำในโรงเรียน และจัดตั้ง ‘มิซุอิกุ คลับ’ เพื่อขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียนที่ชนะการประกวด ‘โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ’ จะได้รับโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานต้นแบบที่ประเทศญี่ปุ่น

กิจกรรมในค่ายตลอด 3 วันจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ไม่มีน้ำ ไม่มีเรา’ โดยความร่วมมือกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) และหน่วยงานภาครัฐ มุ่งเน้นให้เยาวชนเข้าใจความสำคัญของวัฏจักรน้ำและระบบนิเวศในแต่ละพื้นที่ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และทะเล ผ่านกิจกรรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในรูปแบบ ‘Edutainment’ หรือการเรียนรู้ควบคู่ความสนุก กิจกรรมประกอบด้วยการศึกษาป่าต้นน้ำและระบบชะลอน้ำ ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ การสำรวจระบบนิเวศอ่างเก็บน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาเขียว การเรียนรู้ป่าชายเลน ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนฯ รวมถึงการตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเป็นปลายน้ำของทุกสายน้ำในประเทศไทย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรน้ำ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะที่ปรึกษาและคณะกรรมการตัดสินผลงาน พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและการศึกษาร่วมถ่ายทอดความรู้ ได้แก่ คุณอเล็กซานเดอร์ ไซมอน เรนเดลล์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร โครงการมีเป้าหมายเพื่อสร้างรากฐานองค์ความรู้ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และขยายผลด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป