เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 13 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เผ่า แสงกงพลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ร้านจำหน่ายเครื่องครัวพลาสติก ลิ้มเฮงเส็ง 68/1 ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี -หนองบัวลำภู เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผวจ.อุดรธานี นายกิตติกร ทีฆธนานนท์ นายกเทศบาลนครอุดรธานี รถดับเพลิงเทศบาลนครอุดรธานี เทศบาลเมืองหนองสำโรง และท่าอากาศยานอุดรธานี รวม 7 คัน อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม ร่วมกันตรวจสอบระงับเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา จำหน่ายเครื่องครัวและเฟอร์นิเจอร์ทำจากพลาสติก เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากมีเป็นสินค้าพลาส ติก และยังเป็นโกดังเก็บสินค้าพลาสติกจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี นอกจากนี้ยังมีรถบรรทุก 6 ล้อ รถกระบะรวม 4 คัน จอดอยู่หน้าร้านและภายในร้าน ความรุนแรงของเพลิง เจ้าหน้าที่ได้ปิดกลั้นถนน ห้ามรถผ่าน เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม ประกอบกับฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด

จากการสอบสวน นายพิเชฐร์ มิมหาร อายุ 50 ปี พนักงานในร้านเครื่องครัวพลาสติก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเอาของไปส่งลูกค้า และเอาเงินไปส่งเถ้าแก่ จากนั้นก็กลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ใกล้กับร้าน ต่อมาห้องพักมีอาการไฟตก ติดๆ ดับๆ ตนจึงเดินออกมาดูปลั๊กด้านนอก จากนั้นก็ได้ยินเสียงไฟสปาร์คบนชั้นบนอาคาร แบบติดๆ ดับๆ และมีประกายไฟ จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังบึ้มๆๆ ประมาณ 5 นาทีก็ไฟลุก และไหม้อย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรแจ้งเถ้าแก่

ส่วนนายศิลชัย แซ่เฮ้ง อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเครื่องครัวพลาสติก เล่าว่า ตนเปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2548 ไม่มีพนักงานนอนในภายในอาคาร แต่จะอยู่บ้านพักใกล้อาคาร 4 คน ก่อนเกิดเหตุ หลังปิดร้านตนก็ขับรถกลับบ้านที่ห้าแยก เขตเทศบาลนครอุดรธานี ไม่นานพนักงานก็โทรบอกว่าไฟไหม้ร้าน ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นที่เก็บสินค้าเครื่องครัวพลาสติก มีแต่สินค้ามูลค่าประมาณ 40 ล้าน รวมอาคารและรถยนต์เสียประมาณ 50 ล้านบาท

ด้าน นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงเข้ามาช่วยฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จึงควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทีมควบคุมมลพิษเข้ามาประเมินในเรื่องอากาศ ว่าจะมีผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยรอบหรือไม่ โชคดีที่เกิดเหตุไม่มีบ้านเรือนชาวบ้านอยู่ใกล้ ถ้ากลิ่นไหม้ทำให้เกิดอาการระคายเคืองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ทีมดับเพลิงที่เข้าไปก็บอกว่ายังมีพลาสติกที่ยังมีเชื้อเพลิงอยู่ แต่ยืนยันว่าสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ไม่ลุกลามกระจายออกไป ซึ่งเจ้าของอาคารยืนยันไม่มีใครพักอาศัยอยู่ ไม่มีอะไรน่าห่วง ส่วนทีมไฟฟ้าก็มาตัดไฟทันที หลังควบคุมเพลิงไว้ได้จะประเมินรอบที่เกิดเหตุ และจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ทันที

สำหรับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เกิดความแน่ชัดอีกครั้ง.