เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. ที่ห้องประชุม The Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร C ศูนย์ Energy Complex (EnCo) กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 โดยมี พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ให้การต้อนรับ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง

เมื่อมาถึง นายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารกระทรวงพลังงาน จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการด้านพลังงาน ก่อนนายกฯ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า เหตุการณ์ปัจจุบัน ทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้วทั้งเหตุการณ์ในประเทศและนอกประเทศ ในเรื่องของข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และมีผลต่อการที่จะกำหนดทิศทางในการดำเนินการนโยบาย และทุกวันนี้เฟคนิวส์เยอะมาก โดยเฉพาะสถานการณ์เรื่องกัมพูชา เกิดเฟคนิวส์เยอะมาก มีเอไอทำรูปที่เหมือนจริงมากๆ ดิฉันเองเห็นรูปยังสับสนนึกว่ารูปจริงหรือรูปอะไร ถ้าเป็นรูปตัวเอง รู้อยู่แล้วว่ารูปอะไร แต่พอเป็นรูปท่านอื่นๆ ก็เริ่มงงว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เอไอพัฒนาไปเยอะ เฟคนิวส์แนบเนียนยิ่งขึ้น ต้องให้ทุกภาคส่วนราชการนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงอยู่เสมอ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาเช็กข้อมูลกับเราด้วยว่า ข้อมูลไหนจริงหรือไม่จริง อะไรที่เราสามารถเช็กข้อมูลได้ก็จะส่งผลดีมาก อันนี้ต้องขอมอบหมายให้ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ติดตามดูแลเรื่องเฟคนิวส์ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น

นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ดิฉันประชุม จะพูดถึงเรื่องงบลงทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตอนนี้เหลือเวลาอีก 4 เดือน จะหมดงบประมาณปี 68 สิ้นสุดลง ต้องขอความร่วมมือทุกกระทรวง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อจากปี 67 ให้เสร็จสิ้น ตอนนี้เหลืองบประมาณที่ยังไม่เบิกอีก 8 หมื่นล้านบาท ทำให้เราขาดการเอาเงินเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศ ซึ่งถ้าใครมีอะไรเราก็ยินดีที่จะรับฟังและวันนี้เอง กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม รัฐบาลมีมาตรการระยะสั้นในการช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าไฟรอบเดือน พ.ค. ถึงเดือน ส.ค. ปี 68 เหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย และในระยะยาวดิฉันขอมอบโจทย์เพิ่มให้กระทรวงพลังงานดำเนินการปรับโครงสร้างราคาพลังงานไฟฟ้าสร้างความสมดุลในเรื่องของพลังงาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้ประชาชนมีไฟฟ้าที่มั่นคง มีการผลิตที่เพียงพอ 2.มีราคาไฟฟ้าที่เป็นธรรม สะท้อนกับต้นทุนจริง และ 3.การผลิตไฟฟ้าที่ยั่งยืน มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด พร้อมที่จะรองรับระบบซัพพลายไฟฟ้าใหม่ ไม่สร้างภาระให้กับประชาชน และท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกผันผวนมากมายและมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รัฐบาลอยากทำให้สถานการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด โดยสันติวิธี คงจะทราบจากข่าวกันบ้างแล้ว เราพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง และพูดคุยเจรจาให้ได้มากที่สุด อยากให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้ และประกอบอาชีพด้วยตัวเองได้ เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีต่อไป

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอให้ปลัดกระทรวงทุกท่านและผู้บริหารระดับสูง เร่งดูแลประชาชนในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบให้เกิดความมั่นใจและเกิดความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนด้วย ทั้งนี้ อย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งว่าทุกทีมต้องทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด วันนี้ดิฉันได้เจอกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บูรณาการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง มีการรวบรวมข้อมูล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ถ้าอะไรสามารถรวมการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก (Database) ของประชาชนได้ก็จะดีมาก ทำให้เรามีข้อมูลเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้ตรงจุดและตรงกลุ่ม คุ้มค่ากับเม็ดเงิน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไม่ได้มาให้การต้อนรับนายกฯ เนื่องจากติดภารกิจ.