เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด” เพื่อแบ่งปันข่าวดีและข้อมูลสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งในผู้สูงอายุ ซึ่งมักเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลและมองว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุมากขึ้น แต่แท้จริงแล้ว เราสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ

นพ.เจษฎ์ ได้อ้างอิงงานวิจัย DO-HEALTH Clinical Trial จากยุโรป ซึ่งศึกษาในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 2,000 คน ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และพบว่าเพียงแค่ทำ 3 สิ่งง่ายๆ ทุกวัน ก็สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ถึง 61% วันนี้หมอเจดจึงขอเชิญชวนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีพ่อแม่อายุมาก หรืออยู่ในช่วงวัย 60+ ให้หันมาดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ ไปพร้อมกันกับ 3 วิธีนี้

1. เสริมวิตามินดี วันละ 2,000 IU

แม้หลายคนจะรู้จักวิตามินดีในเรื่องของกระดูกที่แข็งแรง แต่ความจริงแล้ว วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วย “ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมะเร็งได้อีกด้วย งานวิจัย DO-HEALTH พบว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับวิตามินดีวันละ 2,000 IU มีอัตราการเกิดมะเร็งน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับอย่างชัดเจน

ทำไมวิตามินดีจึงสำคัญในผู้สูงอายุ?

  • ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักออกแดดน้อย ทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีได้ไม่พอ
  • อาจได้รับวิตามินดีจากอาหารไม่เพียงพอ
  • ระบบการดูดซึมของลำไส้ทำงานลดลงเมื่ออายุมากขึ้น

2. เสริมโอเมก้า-3 วันละ 1 กรัม

โอเมก้า-3 ไม่เพียงแค่ดีต่อสมองและหัวใจ แต่ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในระดับเซลล์ ซึ่ง “การอักเสบเรื้อรัง” เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งเต้านม ในงานวิจัย DO-HEALTH กลุ่มที่ได้รับโอเมก้า-3 วันละ 1 กรัม มีแนวโน้มเกิดมะเร็งน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ

แหล่งโอเมก้า-3 ที่แนะนำ

  • จากอาหาร : ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
  • จากอาหารเสริม : น้ำมันปลาแบบแคปซูล ที่มี EPA + DHA รวมกันประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • คำแนะนำ : หากคุณหรือผู้สูงอายุที่บ้านไม่ค่อยได้ทานปลาทะเล การเสริมน้ำมันปลาเป็นตัวช่วยที่ดีและปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่

3. ขยับร่างกายเบาๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน

หลายคนอาจรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องยากสำหรับผู้สูงอายุ แต่ในงานวิจัยนี้ ผู้สูงอายุทำเพียงกิจกรรมง่ายๆ เช่น เดินยืดเส้นรอบบ้าน, ฝึกทรงตัว (โดยจับพนักเก้าอี้ไว้) หรือขยับแขน-ขาแบบช้าๆ คล้ายการทำไทชิ หรือยืดเหยียดเบาๆ เพียงเท่านี้ อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

เหตุผลที่การขยับตัวช่วยลดมะเร็ง:

  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกัน
  • ลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นแหล่งของการอักเสบ
  • กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ในร่างกายตื่นตัวและฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น นพ.เจษฎ์ เน้นย้ำว่า “การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ แต่สม่ำเสมอ” นั้นดีกว่าการออกแรงหนักๆ แล้วหยุดไปนานๆ

4. ทำทั้ง 3 อย่างร่วมกัน ได้ผลดีที่สุด!

สิ่งที่สำคัญที่สุดจากการศึกษานี้คือ เมื่อทำทั้ง 3 อย่างควบคู่กัน จะช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งได้สูงถึง 61% เนื่องจากแต่ละปัจจัยจะเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน :

  • วิตามินดีช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • โอเมก้า-3 ลดการอักเสบ
  • การเคลื่อนไหวช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและขับของเสีย

ผลลัพธ์คือ ร่างกายจะอยู่ใน “สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะกับการเกิดเซลล์มะเร็ง” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “กันไว้ก่อนดีกว่าแก้” นพ.เจษฎ์ เสริมว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุมากแล้วค่อยเริ่มทำ อายุน้อยๆ ก็สามารถเริ่มต้นดูแลสุขภาพเหล่านี้ได้เช่นกัน

“ถึงเราอาจจะไม่ได้ป้องกันได้ 100% แต่เราทำให้โอกาสเป็นน้อยลงได้ครับ” นพ.เจษฎ์ กล่าวและว่า หากคุณมีคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้สูงอายุที่บ้าน ลองแชร์โพสต์นี้ให้ท่านอ่านดูนะคะ ส่วนใครมีคำถาม สามารถคอมเมนต์สอบถามได้เลย