เว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ “New York Post” รายงานความคืบหน้าสำคัญในคดีสะเทือนขวัญ ในประเทศ ไอร์แลนด์ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เริ่มต้นการขุดค้นขนาดใหญ่ เพื่อค้นหาซากของทารกและพบซากเด็กเกือบ 800 ราย ซึ่งคาดว่าถูกฝังอยู่ในบ่อเกรอะของสถานที่ที่เคยเป็น สถานสงเคราะห์สำหรับหญิงที่ไม่ได้แต่งงาน ที่ดำเนินการโดยกลุ่ม แม่ชีคาทอลิก

เรื่องราวชวนช็อกนี้ถูกเปิดเผยขึ้นครั้งแรกในปี 2557 จากการค้นพบของ แคทเธอรีน คอร์เลส นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เธอสันนิษฐานว่ามีซากทารกและเด็กจำนวนมากถูกทิ้งลงในส้วมซึมของ สถานสงเคราะห์แม่และเด็ก Bon Secours ในเมืองเล็กๆ ของไอร์แลนด์ ซึ่งถูกรื้อถอนไปตั้งแต่ปี 2514 และปัจจุบันถูกสร้างเป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ทันสมัยล้อมรอบ จากการค้นคว้าของคอร์เลส คาดว่ามีเด็กเสียชีวิตในสถานสงเคราะห์แห่งนี้รวม 798 ราย ระหว่างปี 2468 – 2504 โดยมีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ถูกนำไปฝังไว้ที่สุสานใกล้เคียง ขณะที่อีก 796 รายเชื่อว่ายังคงอยู่ภายใต้พื้นที่เดิมของสถานสงเคราะห์

สถานสงเคราะห์ Bon Secours หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “The Home” เป็นสถานสงเคราะห์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่แต่งงาน ดำเนินการโดยแม่ชีคาทอลิก หญิงสาวที่ตั้งครรภ์โดยไม่ได้แต่งงานจะถูกส่งมาคลอดที่นี่และถูกกักตัวเป็นเวลา 1 ปี เพื่อทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ พวกเธอจะถูกแยกจากลูกตั้งแต่แรกเกิด โดยเด็กจะถูกเลี้ยงดูโดยแม่ชีจนกว่าจะถูกคนรับไปเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากครอบครัวของเด็ก

หลังจากผ่านไปกว่าทศวรรษนับจากการเปิดเผยครั้งแรก ในที่สุดทีมสืบสวนก็ได้เริ่มการสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาถึง 2 ปี ในการระบุตัวตนซากของทารกและดำเนินการฝังใหม่

แอนเน็ตต์ แมคเคย์ หญิงชาวอังกฤษซึ่งเชื่อว่าพี่สาวของเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อ 798 คน เผยว่าไม่สนใจว่าสิ่งที่เหลืออยู่จะเป็นเพียงเศษเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่พวกเขาบอกว่าอาจไม่เหลือซากมากนัก เนื่องจากพี่สาวของเธอเสียชีวิตตั้งแต่อายุเพียง 6 เดือน มากาเร็ต ผู้เป็นแม่ของเธอคลอดทารกหญิงที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ หลังถูกข่มขืนตอนอายุ 17 ปี แต่ทารกน้อยเสียชีวิตในเวลา 6 เดือนต่อมา โดยมากาเร็ตทราบข่าวร้ายเมื่อแม่ชีเดินมาบอกขณะที่เธอกำลังตากผ้าว่า “ลูกจากบาปของเธอตายแล้ว”

การขุดค้นในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำความจริงและ ความยุติธรรม มาสู่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของระบบอันโหดร้ายในอดีตของไอร์แลนด์ คุณคิดว่าความจริงที่เปิดเผยออกมาจะช่วยเยียวยาบาดแผลในอดีตได้หรือไม่