เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้แถลงข่าว คือ ไม่ร่วมรัฐบาล หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัว เสียงรัฐบาลก็ปริ่มน้ำ และมีความพยายามพูดคุยหา สส. ไปเพิ่มในรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า ให้ สส. ทุกคนไม่ไปร่วมรัฐบาล

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงภาพหลุดที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ไปกินข้าวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งเห็นว่าเป็นการพูดคุยตามปกติ เป็นการร่วมงานกันทางการเมือง และเข้าใจว่าพรรคภูมิใจไทย พยายามชวน สส. ฝั่งพรรคพลังประชารัฐไปร่วมงาน เพื่อดึงไว้ไม่ให้ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

“พรรคเพื่อไทยในตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เหมือนเรือที่กำลังจะจม พร้อมฝากไปถึงพรรคร่วมทุกพรรค ถ้ายังกอดคอกันอยู่ จะจมน้ำตายกันหมดในเรือลำนี้ อยากให้ถอนตัวออกมา และช่วยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ให้ประเทศเดินหน้า” นายชัยวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้คุยกันหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทางพรรคพลังประชารัฐจะร่วมรัฐบาลแน่นอนหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จะต้องคุยกันใหม่ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรีลาออก ต้องเปลี่ยนนายกฯ และเลือกกันใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะร่วมรัฐบาลกันใหม่มาคุยกัน โดยฝากไปถึงทุกพรรค ว่าวันนี้เป็นเวลาที่จะต้องพูดคุยกันว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เมื่อความผิดนี้เป็นความผิดของรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีลาออกก็ต้องเปลี่ยนแปลง โดยสภาเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ สามารถทำได้

เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถที่จะนำรัฐนาวาไปได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ควรเป็นพรรคเพื่อไทย และยืนยันชัดเจนว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย แต่พรรคอื่นสามารถมาคุยกันได้ เอานโยบายและแนวทางการทำงานมาคุยกัน เชื่อว่าจะมีทางออก ซึ่งวันนี้อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการลาออกหรือเปลี่ยนแปลงเมื่อใด หากมองสถานการณ์การเมืองตอนนี้ชี้ว่าไปไม่ไหวแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่มองว่าไปไม่ไหว เป็นเพราะแรงกดดันผู้ชุมนุมที่ลงถนนใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องของความผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี ที่คนไทยรับไม่ได้ จะสร้างกระแสความเกลียดชังต่อรัฐบาล ประกอบกับเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ก็เป็นไปได้ยาก ซึ่งอะไรที่เป็นเรื่องดีๆ ทำประโยชน์ให้ประชาชนนั้นเกิดได้ยาก และแก้ปัญหาให้กับประเทศไม่ได้แน่นอน มีแต่การแก้ปัญหาการเมืองของตัวเอง ดังนั้นคนที่เสียเปรียบคือประชาชนคนไทยเดือดร้อนแน่นอน.