เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายหวัง โปรแกรมเมอร์หนุ่ม เล่าว่า เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้ไปออกเดทนัดบอด โดยสวมเสื้อยืดที่ซื้อออนไลน์มาในราคา 59 หยวน (ประมาณ 8 ดอลลาร์สหรัฐ) เขากล่าวหาว่า เสื้อยืดตัวนี้มีคุณภาพแย่มาก บางและบอบบางเหมือนชุดนอน ทำให้ผู้หญิงประทับใจแย่ และเป็นสาเหตุให้เดทล่มไม่เป็นท่า
“ผมซื้อเสื้อยืดที่เขาอ้างว่าเป็น ‘ผ้าหนาพิเศษ’ ในราคา 59 หยวน แต่กลายเป็นว่ามันบางและโปร่งใส ผมใส่ไปเดทนัดบอด ผู้หญิงคิดว่าผมใส่ชุดนอนมา” นายหวังกล่าว และเสริมว่า “ผมทำงานในออฟฟิศเขียนโค้ด แต่เสื้อตัวนั้นทำให้ผมดูเหมือนคนตกงาน”
ด้วยความไม่พอใจ นายหวังได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สมาคมผู้บริโภคแห่งประเทศจีน (China Consumers Association) ซึ่งเป็นองค์กรระดับชาติที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิผู้บริโภค ตรวจสอบคุณภาพสินค้าและบริการ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมและการพัฒนาของผู้บริโภค
หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนของนายหวัง ทางการได้สั่งซื้อเสื้อยืดรุ่นยอดนิยมหลายตัวจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยไม่เปิดเผยตัวตน และส่งไปยังห้องปฏิบัติการของรัฐเพื่อทำการทดสอบ ผลการทดสอบเผยให้เห็นว่าเสื้อยืดหลายยี่ห้อ มีการกล่าวอ้างเกินจริงเกี่ยวกับน้ำหนักของเนื้อผ้า

บางแบรนด์โฆษณาเสื้อยืดของตนว่ามีน้ำหนักมากและมีความหนาแน่นสูงเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ แต่การทดสอบกลับพบว่าผู้ขายบางรายมีการ “ปั่นน้ำหนัก” ของเนื้อผ้าด้วยการเคลือบสาร หรือโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิด
ปัจจุบัน กฎระเบียบของจีนไม่ได้บังคับให้แบรนด์ต้องเปิดเผยน้ำหนักของเนื้อผ้า ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลคุณภาพเสื้อผ้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
ประสบการณ์ของนายหวัง กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างขำขันบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า “บางทีที่เดทล่มอาจจะไม่ใช่เพราะเสื้อยืดนะพี่ชาย แต่อาจจะเป็นเพราะคนใส่ต่างหาก” อีกคนเสริมอย่างติดตลกว่า “มันไม่เกี่ยวกับยี่ห้อ มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ ผู้หญิงส่วนใหญ่แค่อยากได้คนที่ดูสะอาดและเรียบร้อย” ส่วนอีกคนทิ้งท้ายว่า “ถ้าเพื่อนโปรแกรมเมอร์ของเราทุ่มเทกับการแต่งตัวครึ่งหนึ่งของการดีบั๊กโปรแกรม เขาคงไม่โดนผู้ผลิตเสื้อผ้า ‘หลอก’ แบบนี้หรอก”
เรื่องการนัดบอดเพื่อแต่งงานในเมืองใหญ่ของจีน เป็นความท้าทายสำหรับคนหนุ่มสาวอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ชายที่มักเผชิญกับแรงกดดันทางสังคมอย่างหนัก ที่จะต้องมีอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ ก่อนที่จะถูกพิจารณาว่าเหมาะสมสำหรับการแต่งงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองใหญ่ ขณะที่ผู้หญิงในเมืองที่ได้รับการศึกษาดีและมีอายุเกิน 30 ปี มักถูกเรียกว่า sheng nü หรือ “ผู้หญิงเหลือทิ้ง” และถูกกดดันให้แต่งงานเร็ว โดยบ่อยครั้งต้องแลกมาด้วยการเสียสละความใฝ่ฝันส่วนตัวหรือในอาชีพการงาน
ที่มา https://www.scmp.com