เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกและสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า ปัจจุบันมีข้อมูลบางส่วนที่ถูกทำให้เข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อน สร้างความสับสนให้กับประชาชน ตนจึงต้องมาสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลชุดนี้จะเดินหน้าทำงานต่อเพื่อพี่น้องประชาชน และทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและดำเนินงานทุกอย่างไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่  21 มิ.ย.ที่ผ่านมามีข่าวลือว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะรับหรือตอบรับพรรคการเมืองบางแห่ง ว่า จะลาออกหลัง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ผ่านสภาในวาระที่ 3 ตนในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ถือเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ที่ผ่านมานายกฯ ยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการลาออก และจะไม่มีการยุบสภาแต่อย่างใด โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันในสภาวะที่ประเทศไทยเผชิญความท้าทายในหลายด้าน ทั้งปัญหาความมั่นคงและข้อพิพาทตามแนวชายแดน ปัญหายาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ ปัญหาค่าครองชีพที่สูงมาก ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาการปฏิรูปทางการเมือง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นเหตุผลที่รัฐบาลจำเป็นจะต้องเดินหน้าทำงานต่อ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ซึ่งเราจะเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่และสุดความสามารถ

น.ส.ขัตติยา กล่าวต่อว่า หลังปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว รัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อภารกิจต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามยาเสพติด การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งต้องยอมรับว่า ตอนนี้มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงมีมาตรการแก้ไขหนี้สิน เรื่องค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดการลงทุนใหม่ ตลอดจนช่วงระยะเวลา 2 ปีเศษที่เหลือของสภาผู้แทนราษฎร ยังรอการพิจารณากฎหมายสำคัญ ที่จะส่งผลดีต่อด้านเศรษฐกิจการลงทุน การปกป้องสิทธิมนุษยชน และการปฏิรูปการเมืองของไทย เช่น เดินหน้าเร่งเครื่องยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การผลักดันร่างพ.ร.บ.บัญญัตินิรโทษกรรม ที่เสนอมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาชน และภาคประชาชน ซึ่งอยู่ในวาระแรกๆ ที่สภาผู้แทนราษฎรจะนำมาพิจารณา นอกจากนี้ยังมีกฎหมายยกระดับดึงดูดการลงทุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เช่น ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร  ร่างกฎหมายที่ช่วยลดรายจ่ายของประชาชน เช่น กฎหมายชุดที่จะทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หรือพ.ร.บ.ตั๋วร่วม, หวยเกษียณ และบ้านเพื่อคนไทย เป็นต้น  

“ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นภารกิจของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล รวมถึง สส.ของพรรคเพื่อไทยที่จะทำให้สิ่งนี้สำเร็จให้ได้ ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อทำงานเพื่อประชาชน และดิฉันอยากเรียกร้องไปยังผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดีที่พยายามจะปล่อยข่าวลือ ขอให้หยุดบิดเบือนข้อเท็จจริงขอให้ยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก” น.ส.ขัตติยา กล่าว

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย  กล่าวต่อว่า สำหรับข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีชื่อของนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในคำสั่งมอบหมายงานที่ออกมาเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา นำมาซึ่งความเข้าใจผิดว่าจะมีการถอดถอนนายพีระพันธุ์ออกจากตำแหน่ง หรือไม่ นั้น ขอชี้แจงว่านายพีระพันธุ์นั้นยังคงดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนเหตุผลที่ไม่มีชื่อนายพีระพันธ์ุอยู่ในคำสั่งล่าสุดนั้นเนื่องจากว่าเป็นการมอบหมายงานเฉพาะกรณีให้รองนายกฯ ที่เหลือรับช่วงภารกิจต่อจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯ ซึ่งพ้นตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ในขณะที่นายพีระพันธุ์เองยังมีภารกิจของรองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีคำสั่งเพิ่มเติมในส่วนนี้ ตอนนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการจัดโครงสร้างและการมอบหมายงานในคณะรัฐมนตรีนั้นดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะบริหารงานให้เดินหน้าประเทศต่อไปได้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน.