เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับบริหารราชการแทนนายกฯ ในส่วนกระทรวงมหาดไทย ว่า มาติดตามการดำเนินนโยบาย 3-4 ประเด็น 1. เรื่องการดำเนินนโยบาย เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่ประสานนโยบายไปถึงประชาชนได้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยเป็นความหวัง ที่จะดึงนโยบายไปถึงประชาชน แต่ยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่อย่างที่เราคาดหวัง ซึ่งไม่ใช่การมาตำหนิเจ้าหน้าที่ของกระทรวง แต่นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลอยากจะดึงกระทรวงมหาดไทยมาอยู่กับรัฐบาล เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลมากที่สุด
2.นโยบายเรื่องยาเสพติด ซึ่งคิดว่าเป็นนโยบายที่ทำได้ ขอให้ลงพื้นที่ไปเอกซเรย์ตามจุดต่างๆ เพราะจากการลงพื้นที่ พบว่าประชาชนรู้ทั้งหมดว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จึงอยากให้ทั้งสามส่วนเอาจริงเอาจัง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะเป็นตัวนำหลักในฐานะเป็นฝ่ายปกครอง และจะดูแลลงไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงประชาชนข้างล่างโดยตรง หากบอกแล้วยังไม่เลิกก็จะจัดการขั้นเด็ดขาด
3.เรื่องการชุมนุม ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหา โดยการยึดสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการดูแลทำความเข้าใจ โดยให้ผู้ใหญ่บ้านและนายอำเภอลงพื้นที่ทำความเข้าใจทั้งหมด ขณะนี้บ้านเมืองกำลังวิกฤติ สงครามเกิดขึ้นทั่วไป มีการปิดอ่าว น้ำมันอาจจะหาย ขาดแคลน หรือราคาปรับสูงขึ้น วิกฤติเศรษฐกิจประเทศก็จะยิ่งหนักหน่วงขึ้น จึงต้องแก้ไขปัญหาให้ดีเรื่องนี้ถือว่าหนัก ส่วนเรื่องปัญหาเพื่อนบ้าน ยืนยันว่า จะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา เน้นการเจรจาทวิภาคี นอกจากนี้ได้ทราบจากแถลงการณ์ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เรื่องเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ แหล่งฟอกเงิน และศูนย์สแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วโลก จึงเตรียมจัดตั้งศูนย์ร่วมกับระดับนานาชาติ เพื่อสกัดกั้นกระบวนการ หลังจากนี้สิ่งที่เคยทำกับเมียนมาก็จะนำมาใช้ที่นี่ครั้งนี้ด้วย ทั้งตัดไฟและกระบวนการต่างๆ จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยสนับสนุนทุกอย่าง ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้ดำเนินการไปตามที่เป็น รวมถึงขอให้รอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนใหม่มามอบนโยบาย
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กับการชุมนุมที่ดาวกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ายึดตามรัฐธรรมนูญอยู่กับที่กับทาง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็สามารถทำได้ และได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ทำความเข้าใจว่าประเทศกำลังลำบาก การทำให้ประเทศเกิดความว่างเปล่า หรือรัฐบาลอ่อนแอจะกลายเป็นเหยื่อของคนอื่น
เมื่อถามว่า คำแถลงการณ์ของ UN เป็นการเข้าข้างประเทศไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ใช่ว่าต่างชาติมาสู้กับกัมพูชา แต่แถลงการณ์ของ UN เป็นเรื่องสแกมเมอร์ของคอลเซ็นเตอร์ที่ส่งผลร้ายต่อคนไทยและคนทั่วโลก จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์ร่วมกันของคนหลายประเทศเพื่อจัดการเรื่องนี้ ให้ภัยพิบัติอย่างหนึ่งของโลกหมดไป