เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่วัดพระศรีมหาธาตุ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระบัญชาให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีประทานประกาศเกียรติคุณแก่วัดที่ได้รับการคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีวัดที่ได้รับการคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 20 วัด วัดพัฒนาตัวอย่าง จำนวน 30 วัด และอุทยานการศึกษาในวัดจำนวน 50 วัด รวมทั้งสิ้น 100 วัด

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ว่า ขอแสดงความยินดีกับเจ้าอาวาสทุกรูปที่ได้เสียสละพัฒนาวัดเป็นอย่างดี จนได้รับการพิจารณาได้รางวัล ตนเป็นประธานโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เพื่อต้องการให้วัดเป็นผู้นำชุมชน ด้านคุณธรรม จริยธรรม รวมถึงการศึกษา เหมือนเช่นในอดีต ที่มีพระสงฆ์คอยเป็นครู เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพุทธศาสนิกชนในแต่ละท้องถิ่น ชาวบ้านก็จะศรัทธาและมีส่วนร่วมในการพัฒนาวัด ร่วมแรงร่วมใจกัน สามัคคีกัน โดยมีหลวงพ่อ หลวงปู่ เป็นต้นศรัทธาให้กับชุมชน แต่ปัจจุบันหาได้ยากขึ้น ขณะเดียวกันพระสงฆ์ส่วนหนึ่งก็ประพฤติไม่ค่อยดี ทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา มองพระไปอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่เป็นผู้นำทางสังคมที่แท้จริง

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า สมัยก่อนจะทำอะไรต้องไปปรึกษาหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา แต่ปัจจุบันนี้แทบไม่มีแล้ว อีกทั้งมีส่วนหนึ่งกลับมองพระ มองวัด เป็นกาฝากของสังคมไปแล้ว เพราะมองเห็นความไม่ดี ไม่งดงาม ไม่เรียบร้อยของพระส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงทำโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เพื่อต้องการทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ให้ประชาชนในท้องถิ่นร่วมเป็นเจ้าของวัดด้วย วัดไม่ใช่สมบัติของเจ้าอาวาส แต่เป็นสมบัติของพระศาสนา พระมีหน้าที่ในการพัฒนาวัด ดูแล รักษาวัดให้เจริญรุ่งเรือง ขณะที่ประชาชนก็จะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวัด ช่วยกันดูแลวัด อะไรไม่เรียบร้อยก็ช่วยกันดูแลจัดการ ซึ่งจะทำให้พระสงฆ์ในวัดเกิดความเกรงใจ ละอายแก่ใจ ไม่ประพฤติสิ่งไม่ดีไม่งาม เป็นการช่วยกันดูแลพระสงฆ์ให้ประพฤติดีปฏิบัติชอบด้วย