เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) ร่วมกับ มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม และเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand เปิดตัวโครงการ “SEED Project ปี 5” ภายใต้แนวคิด “สร้างผู้นำเยาวชน พาท้องถิ่นสู่สากล” ณ อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี

ดร.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการว่า มีที่มาจากการที่มีเยาวชนได้เข้ามาสะท้อน ความห่วงใยต่อประเทศชาติ ถึงการเกิดช่องว่าง และความไม่เข้าใจระหว่างผู้ใหญ่และเด็กที่เกิดขึ้นในสังคม จึงเป็นที่มาของการสร้างเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand รุ่นแรกขึ้น เพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์คนรุ่นใหม่ เมล็ดพันธุ์แห่งความดี ในการร่วมช่วยกันพัฒนา สร้างความมั่นคง ความยั่งยืนแก่ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคม โดยมีรูปแบบกิจกรรม ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ปฏิบัติด้วยตัวเอง ต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น

ประกอบด้วยการพัฒนาประเทศ และชุมชน โดยมีการสร้างเครือข่ายเยาวชนลงพื้นที่ไปส่งเสริมพัฒนาชุมชน ทั่วประเทศ ทำให้เกิด “ของดีบ้านเรา เรื่องเล่าบ้านเรา และพัฒนาบ้านเรา” โดยได้รับการเติมเต็มจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้ามาช่วยสนับสนุนตั้งแต่รุ่นที่ 3 และ 4 เป็นต้นมา ขณะที่ด้านศาสนา นับเป็นเรื่องสำคัญ ที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ สร้างความสามัคคี สอนให้คนคำนึงถึงธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม โดยมีกิจกรรมให้ฝึกสมาธิ และถ่ายทอดความเป็นคนดี ความเป็นคุณธรรมสู่ชุมชน และที่สำคัญที่สุดคือ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยได้ให้ความรู้ถึงเรื่องความกตัญญู ประวัติศาสตร์ เพราะถ้าไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่มีแผ่นดินให้เราอยู่ในวันนี้ เหล่านี้เป็น 3 แกนหลักของโครงการเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand

ด้านพันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ให้การสนับสนุนโครงการ “SEED Project” มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เข้าสู่ปีที่ 5 ด้วยความมุ่งหวังว่าจะสามารถสนับสนุนให้เยาวชน สามารถจุดประกายความคิด และสร้างแรงบันดาลใจในการส่งเสริมคุณค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนส่งเสริมความรักและความภูมิใจในถิ่นฐานบ้านเกิด สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการนำพาเยาวชนในพื้นที่ให้ใช้ศักยภาพของตนเองให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

ในโอกาสนี้ ยังได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “พลังเยาวชนพาท้องถิ่น สู่สากล” ร่วมสะท้อนถึงความท้าทายและโอกาสของคนรุ่นใหม่ในการเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของ “เยาวชนที่เห็นคุณค่าบ้านเกิด และมีความพร้อมสื่อสารสู่โลกกว้าง” ให้เป็นเยาวชนพลังบวกที่มีจิตสำนึกรักบ้านเกิดและมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ
ประธานมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ได้ฝากมุมมอง แชร์ประสบการณ์ถึงเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเปรียบเสมือนอาทิตย์อุทัย ที่จะก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองอนาคต โดยขอให้ยึดมั่นปฏิบัติใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การเป็นพลเมืองดี รู้จักบทบาทหน้าที่ ในการทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง 2.การมีศรัทธา เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราต้องมีความเชื่อในอุดมการ อุดมคติ เพื่อนำไปสู่การลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง 3.การหาแบบอย่างที่ดี ซึ่งคนเรามีทั้งด้านสว่างและด้านมืด แต่ควรเลือกมองในด้านดี ที่จะนำไปเป็นแบบอย่างในการก้าวเดิน เริ่มจากการเป็นผู้ตามที่ดีก่อนก้าวสู่การเป็นผู้นำที่ดี และข้อสุดท้าย 4. การวางตัวที่ดี ทั้งกาย วาจา ใจ ต้องตื่นตัว ตื่นรู้ มีบุคลิกภายนอกที่เหมาะสม การแต่งกายที่ดีไม่ต้องแพง ไม่ต้องแฟชั่นแต่ขอให้มีความเรียบร้อย เหมาะต่อกาลเทศะ ตลอดจนการพูดจาให้มีการไตร่ตรอง เพราะคำพูดจะเป็นนายของเรา

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดเวทีเสวนา ในหัวข้อ “เยาวชนรุ่นใหม่ สู่งการลงมือทำที่มีผลกระทบจริง” โดยผู้ร่วมเสวนา ตัวแทนเยาวชน SEED Thailand มาร่วมบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์จริงจากการทำโครงการในพื้นที่ อาทิ ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรม การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการสื่อสารสาธารณะเพื่อเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมในชุมชน เพื่อร่วมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการสร้างเครือข่ายเยาวชนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิดการเผยแพร่เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณค่า ให้มีโอกาสได้แตกหน่อ ต่อยอดความดีต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อขับเคลื่อนสังคมประเทศชาติ นำไปสู่การเป็นแบบอย่างในระดับสากลอย่างยั่งยืนต่อไป

“โครงการ SEED Project ปี 5 เป็นโครงการที่สำนักงานฯ ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 โดยในปีนี้จะมีเยาวชนที่ได้รับการสนับสนุนและทำโครงการในพื้นที่จริงกว่า 500 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมขยายเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์เพื่อบ้านเกิดให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของสำนักงานฯ ในการส่งเสริมสังคมไทยให้ก้าวสู่อนาคตผ่านการลงทุนกับคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง มีศักยภาพ และมีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงประเทศจากฐานรากต่อไป”