เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 68 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวเสนอตนเองนั่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวว่า ตนเองงงว่ามีกระแสข่าวได้อย่างไร จนถึงเวลานี้ยังไม่มีเวลาดูคลิป ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเองได้เห็นคลิปว่ามีการเสนอชื่อตนเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ก็งงว่าไปเสนอตัวเมื่อไร ทุกอย่างมันยังไม่ใช่เวลา ไม่รู้ว่าเป็นการทำ IO ของใครหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ประสานเสนอนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ตนก็ได้สอบถามคนในพรรค ว่าใครเป็นผู้ประสานไป ซึ่งไม่มีใครทราบเรื่อง จึงขอปฏิเสธกระแสข่าวนี้

เมื่อถามว่า นายณัฐพงษ์ ได้รับสัญญาณมาจากพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย เรื่องส่งสัญญาณต้องฟังตนเอง จะไปพูดข้ามพรรคกันไม่ได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ตนเองจะได้นั่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้ประเทศไทยยังมีนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอย่าไปพูดให้เกินเลยไปมากกว่านี้

เมื่อถามว่า หากประเทศมาถึงทางตัน พร้อมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ยังไม่ถึง”

เมื่อถามย้ำว่า หากถึง นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่า พร้อมคืออะไร พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า ซึ่งตนพูดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าตนเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวและจับมือพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ชั่วคราวไม่มี เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีชั่วคราวหรือถาวรใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างมีกลไกของรัฐสภา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า เงื่อนไขของพรรคประชาชน ที่ระบุว่าจะยกมือโหวตให้ แต่ไม่ร่วมรัฐบาลโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ จะเป็นวันแรก ที่ตนเองจะได้พบกับนายณัฐพงษ์ เพราะจะเป็นวันที่สภาเปิด และพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ประสานมาว่าพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านน้องใหม่ จะมีโอกาสได้พบกันก่อนที่จะมีการเปิดประชุม ซึ่งได้นัดกันไว้ในช่วงเช้า โดยยืนยันว่าตนเองจะไปหา เพราะเขาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า ส่วนเจตนาที่มีโมเดลที่ออกมา เพราะเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขออนุญาตกลับไปฟังคลิปก่อน วันนี้ตนเองออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าเลยยังไม่มีโอกาสได้ดูคลิป ได้แต่ฟังคนอื่นเล่ามา เล่าไม่เหมือนกันสักคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอนุทินได้มีการพูดคุยกับนายณัฐพงษ์หรือไม่ เนื่องจากนายณัฐพงษ์ระบุว่ามีการพูดคุยกันอยู่ตลอด นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนตัวตนไม่เคยคุยกัน นอกจากเป็นการทักทายกันในสภา แต่ไม่เคยมีการพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ครั้งนี้ได้ทำงานในฝั่งเดียวกัน

เมื่อถามว่า การจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสิ้นสุดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะเป็นนายกฯ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายอนุทิน กล่าวถึง การประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลว่าตนเองเคยพูดไปแล้ว ให้ไปย้อนดูข่าวก่อนหน้านี้ พูดอย่างที่เคยพูดว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เคยแข็งแกร่งมาก มีเสียงสนับสนุนถึง 320 เสียง เรื่องนี้ก็ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า “ถ้าเป็นนายกฯ หนู จะแข็งแรงหรือไม่” นายอนุทิน กล่าวว่า “รอให้ถึงวันนั้นก่อน”

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะที่ความเห็นถึงการจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น คือยุบสภากับรัฐบาลถึงทางตัน แล้วใครคือผู้ระบุว่า ถึงเวลาทางตันแล้ว ว่ากันไปตามสถานการณ์ และยิ่งพูดในฐานะพรรคภูมิใจไทย ยิ่งพูดไม่ได้ เพราะได้พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

เมื่อถามว่า มีการส่งสัญญาณมาหรือไม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแต่คดีที่นายณัฐพร โตประยูร ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย กลับถูกยกฟ้อง นายอนุทิน กล่าวว่า คำถามนี้หาคุกมาให้ผม เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เพราะเป็นการละเมิดอำนาจศาล คำพิพากษาของศาล เราไม่สามารถมีความเห็นได้.